"กระทิงแดง" ผลิตภัณฑ์ของคนไทย
เมืองไทยเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันที่ "สุดยอด" ทั้งหลายแหล่
โดยเครื่องดื่ม "กระทิงแดง" จนการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ซึ่งที่เป็นแนว "สุดยอด" หรือ Extream ทั้งหลายแหล่
ถ้ากล่าวคำว่า Red Bull กีฬาชนิดนั้นจะเป็นสำหรับคนที่สุดยอดเท่านั้นก็ว่าได้ ......
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2553 คนไทยที่ชื่นชอบความเร็ว ซึ่งหมายถึงการแข่งขันความเร็วประเภท "รถสูตร1" ก็ได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงกันที่ใจกลางเมืองไทย ณ. ถนนราชดำเนิน
ซึ่งเจ้าของแชมป์โลกคือ "ซินบัสเตียน เวสเทล" ก็จะได้มาขับให้คนไทยได้ชมเป็นขวัญตาด้วยตัวเขาเอง """
งานนี้พอวันจริง คนที่ขับให้ชมคือ "มาร์ค เวบเบอร์" คนเดียวครับ ซึ่งคนนี้ก็ได้อันดับ 3 ของการแข่งขันรถสูตรหนึ่งของปี 2010 ซึ่งถือได้ว่า ทีม "เรดบลู เรสซิ่ง" ปีนี้เป็นปีที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากครับ เพราะได้ทั้งแชมป์โลกและอันดับ 3 ในเวลาเดียวกัน ก็ยังได้คะแนนประเภทผู้ผลิตอันดับหนึ่งอีกด้วย
......สุดยอด......มากเลย งานนี้ชื่อ "ประเทศไทย" ขึ้นไปติดอันดับโลกดังหมายครับ
ประวัติของเครื่องดื่ม "กระทิงแดง" คือ เป็นสินค้าไทย ๆ โดยแท้
แต่คนไทยไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันเท่าไร เพราะเหมือนกับว่า "บรรจุภัณฑ์" ทำไม่สวยงาม และภาพลักษณ์ก็ไม่ต่างจาก เครื่องดื่ม "ลิโพวิตันดี" หรือ M-100 ,M-150
และก่อนนั้นเครื่องดื่มกระทิงแดงเองก็ไม่ได้ที่จะโฆษณาซักเท่าไร สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อนัก
ธุรกิจคนหนึ่งเข้ามาเมืองไทย
และได้ดื่มเครื่องดื่มกระทิงแดงแล้วรู้สึกประทับใจในรสชาด ส่วนราคาขายนั้นก็ถูกตั้งราคาโดยสภาพเศรษฐกิจในประเทศอยู่แล้ว
นักธุรกิจคนนั้นก็เกิดแนวความคิดที่จะนำผลิตภัณฑ์กระทิงแดง หรือชื่ออังกฤษก็คือ Red Bull นั่นแหละ นำไปเสนอกับบริษัทกระทิงแดงจำกัดโดยมีผลประโยชน์ร่วมกัน
นั่นคือ จะนำสินค้ากระทิงแดงไปขายยังต่างประเทศ โดยจะปรับปรุงลักษณะบรรจุภัณฑ์และการตลาดจะแยกกันกับเมืองไทย
กล่าวคือสินค้าที่จำหน่ายในเมืองไทยก็จะขายเฉพาะในเมืองไทย ส่วนสินค้า "กระทิงแดง" ที่จำหน่ายต่างประเทศซึ่งผลิตในประเทศ "ออสเตรีย" ก็จะไม่นำมาขายในเมืองไทย
เพื่อเป็นการแยกตลาดแต่ใช้ชื่อเดียวกัน หรือจะไม่ขายคู่กันเพื่อเป็นการแยกชั้นของสินค้า ซึ่งรสชาดของกระทิงแดงนั้นจะเป็นที่ "ถูกปาก" ของคนต่างชาติมากจึงทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดสมความตั้งใจ
เราเองจะมองด้วยตาแล้วจะแยกออกว่า "บรรจุภัณฑ์" ของกระทิงแดงที่ขายในเมืองไทยก็ยังใส่ขวดอยู่ ส่วนต่างประเทศจะเป็นแบบกระป๋อง หรือ "แคน"
แต่..ปัจจุบันแบบบรรจุในกระป๋องก็มีวางจำหน่ายในเมืองไทยแล้ว
จะทำให้แยกชั้นกันได้ว่า ถ้าดื่มแบบกระป๋องจะ "สุดยอด" กว่า และราคาก็จะสูงกว่าด้วย
เหตุผลก็มาจาก การวางแผนทางการตลาดนั่นเอง และเครื่องดื่มกระทิงแดงดังกระฉูดมากเมื่อเข้าไปสนับสนุนด้าน "กีฬา" ต่าง ๆ ทุกชนิด
โดยกีฬาต่าง ๆ ที่เครื่องดื่มกระทิงแดงสนับสนุนนั้นก็เป็นที่ชื่นชอบของประชากรโลกอยู่แล้ว เมื่อกีฬาต่างๆ ได้แชมป์ก็จะมีตรา "กระทิงแดง" ติดไปกับแชมป์นั้นด้วย
เพราะนักกีฬาใส่เสื้อผ้าที่มีตรากระทิงแดงอยู่ ระยะเวลาผ่านไปก็สะสมชื่อเสียงไปด้วย จนปัจจุบันคนทั่วไปที่แค่ใส่เสื้อกระทิงแดงก็จะถือได้ว่าบุคคลนั้น "สุดยอด" หรือ Extream เหมือนกับกีฬานั้นจริง ๆ
เป็นความสำเร็จที่สามารถ "ผลัก" ชื่อ "กระทิงแดง" ขึ้นไปในระดับโลกได้สำเร็จและก็สามารถผลักชื่อ "ประเทศไทย" ขึ้นไปให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศนี้อีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนั้นเครื่องดื่มที่สนับสนุนกีฬาในระดับโลกคล้าย ๆ กันก็คือเครื่องดื่ม "เบียร์สิงห์" เครื่องดื่มนี้สนับสนุนการแข่งขันกีฬา "เรือสูตร1"
อีกด้านหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้มากนัก...นอกจากการสนับสนุนการแข่งขันทางด้านต่าง ๆ ในโลกนี้ "กระทิงแดง" ยังบริจาคให้กับ "วัด" ต่าง ๆ ในประเทศไทยแบบมหาศาลไม่เว้นแต่วัดที่อยู่ในป่าหรือวัดที่ "ปฏิบัติ" จริง ๆ แต่ทาง "กระทิงแดง" เองไม่ได้นำไปโฆษณาหาชือเสียงใดๆ ทั้งสิ้น ผู้คนจะรู้จักเองครับ
นี่คือหน้าตาที่แท้จริงของ "ซินบัสเตียน เวสเทล" ผู้ซึ่งเป็นแชมป์โลกประเภทรถยนต์สูตร1ของโลกปี2010และเป็นแชมป์โลกรถสูตร1ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก
นั่นคือมีอายุเพียง22ปีเท่านั้น และ ซินบัสเตียน เวสเทล นั้นเป็นชาว "เยอรมัน" ซึ่งเป็นคนชาติเดียวกันกับ "ไมเคิล ชูมัคเกอร์"
โดย "ไมเคิล ชูมัคเกอร์" นั้นเป็นแชมป์โลกรถ F1 ถึง7สมัยด้วยกัน ที่สำคัญหาตัวจับยากมาก
รถที่ใช้ขับในการแข่งขันนั้นใช้เครื่องยนต์ของ "เรโนลย์" ขนาด ๒๕๐๐ ซีซี 600 แรงม้า ที่ 18,000 รอบต่อนาที ความเร็วในการแข่งขันประมาณ 320 กม./ชม.
ความเร็วสูงสุดที่วิ่งได้ประมาณ 400 กม./ชม. แต่สำหรับความเร็วสูงสุดที่ 400 กม./ชม. นั้นจะไม่นำมาวิ่งแข่งขันในสนามแบบนี้ด้วยหลายเหตุผล รถทุกคันที่แข่งขันในสนาม สามารถทำความเร็วแบบนี้ได้หมดครับ
การขับรถของ "มาร์ค เว็บเบอร์" ในครั้งนี้ก็เป็นการเฉลิมฉลองให้กับ "ในหลวง" ของเราด้วยครับ
ก่อนหน้านั้น "ในหลวง" ของเราก็ได้ทรงทอดพระเนตรรถสูตร1 ที่ "มาร์ค เว็บเบอร์" ขับถวายท่าน
แหละ "มาร์ค เวบเบอร์" ยังได้อธิบายถึงรายละเอียดต่าง ๆ ให้พระองค์ท่านเข้าใจอย่างใกล้ชิดด้วย
นอกจากนั้น เจ้าของบริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ก็ได้เข้าเฝ้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท "ในหลวง" ของเราด้วย ทั้งนี้ก็นับป็น "เกียรติยศ" และ "ศักดิ์ศรี" แก่วงษ์ตระกูล "อยู่วิทยา" เป็นยิ่งนัก ....ครับท่าน....
....ภาพด้านล่าง..เป็นเส้นทางที่ใช้ขับขี่ในวันเกิดเหตุ ครับ....




โดยเครื่องดื่ม "กระทิงแดง" จนการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ซึ่งที่เป็นแนว "สุดยอด" หรือ Extream ทั้งหลายแหล่
ถ้ากล่าวคำว่า Red Bull กีฬาชนิดนั้นจะเป็นสำหรับคนที่สุดยอดเท่านั้นก็ว่าได้ ......
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2553 คนไทยที่ชื่นชอบความเร็ว ซึ่งหมายถึงการแข่งขันความเร็วประเภท "รถสูตร1" ก็ได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงกันที่ใจกลางเมืองไทย ณ. ถนนราชดำเนิน
ซึ่งเจ้าของแชมป์โลกคือ "ซินบัสเตียน เวสเทล" ก็จะได้มาขับให้คนไทยได้ชมเป็นขวัญตาด้วยตัวเขาเอง """
งานนี้พอวันจริง คนที่ขับให้ชมคือ "มาร์ค เวบเบอร์" คนเดียวครับ ซึ่งคนนี้ก็ได้อันดับ 3 ของการแข่งขันรถสูตรหนึ่งของปี 2010 ซึ่งถือได้ว่า ทีม "เรดบลู เรสซิ่ง" ปีนี้เป็นปีที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากครับ เพราะได้ทั้งแชมป์โลกและอันดับ 3 ในเวลาเดียวกัน ก็ยังได้คะแนนประเภทผู้ผลิตอันดับหนึ่งอีกด้วย

ประวัติของเครื่องดื่ม "กระทิงแดง" คือ เป็นสินค้าไทย ๆ โดยแท้
แต่คนไทยไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันเท่าไร เพราะเหมือนกับว่า "บรรจุภัณฑ์" ทำไม่สวยงาม และภาพลักษณ์ก็ไม่ต่างจาก เครื่องดื่ม "ลิโพวิตันดี" หรือ M-100 ,M-150
และก่อนนั้นเครื่องดื่มกระทิงแดงเองก็ไม่ได้ที่จะโฆษณาซักเท่าไร สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อนัก

และได้ดื่มเครื่องดื่มกระทิงแดงแล้วรู้สึกประทับใจในรสชาด ส่วนราคาขายนั้นก็ถูกตั้งราคาโดยสภาพเศรษฐกิจในประเทศอยู่แล้ว
นักธุรกิจคนนั้นก็เกิดแนวความคิดที่จะนำผลิตภัณฑ์กระทิงแดง หรือชื่ออังกฤษก็คือ Red Bull นั่นแหละ นำไปเสนอกับบริษัทกระทิงแดงจำกัดโดยมีผลประโยชน์ร่วมกัน

กล่าวคือสินค้าที่จำหน่ายในเมืองไทยก็จะขายเฉพาะในเมืองไทย ส่วนสินค้า "กระทิงแดง" ที่จำหน่ายต่างประเทศซึ่งผลิตในประเทศ "ออสเตรีย" ก็จะไม่นำมาขายในเมืองไทย
เราเองจะมองด้วยตาแล้วจะแยกออกว่า "บรรจุภัณฑ์" ของกระทิงแดงที่ขายในเมืองไทยก็ยังใส่ขวดอยู่ ส่วนต่างประเทศจะเป็นแบบกระป๋อง หรือ "แคน"
แต่..ปัจจุบันแบบบรรจุในกระป๋องก็มีวางจำหน่ายในเมืองไทยแล้ว
จะทำให้แยกชั้นกันได้ว่า ถ้าดื่มแบบกระป๋องจะ "สุดยอด" กว่า และราคาก็จะสูงกว่าด้วย
เหตุผลก็มาจาก การวางแผนทางการตลาดนั่นเอง และเครื่องดื่มกระทิงแดงดังกระฉูดมากเมื่อเข้าไปสนับสนุนด้าน "กีฬา" ต่าง ๆ ทุกชนิด

เพราะนักกีฬาใส่เสื้อผ้าที่มีตรากระทิงแดงอยู่ ระยะเวลาผ่านไปก็สะสมชื่อเสียงไปด้วย จนปัจจุบันคนทั่วไปที่แค่ใส่เสื้อกระทิงแดงก็จะถือได้ว่าบุคคลนั้น "สุดยอด" หรือ Extream เหมือนกับกีฬานั้นจริง ๆ
เป็นความสำเร็จที่สามารถ "ผลัก" ชื่อ "กระทิงแดง" ขึ้นไปในระดับโลกได้สำเร็จและก็สามารถผลักชื่อ "ประเทศไทย" ขึ้นไปให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศนี้อีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนั้นเครื่องดื่มที่สนับสนุนกีฬาในระดับโลกคล้าย ๆ กันก็คือเครื่องดื่ม "เบียร์สิงห์" เครื่องดื่มนี้สนับสนุนการแข่งขันกีฬา "เรือสูตร1"
อีกด้านหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้มากนัก...นอกจากการสนับสนุนการแข่งขันทางด้านต่าง ๆ ในโลกนี้ "กระทิงแดง" ยังบริจาคให้กับ "วัด" ต่าง ๆ ในประเทศไทยแบบมหาศาลไม่เว้นแต่วัดที่อยู่ในป่าหรือวัดที่ "ปฏิบัติ" จริง ๆ แต่ทาง "กระทิงแดง" เองไม่ได้นำไปโฆษณาหาชือเสียงใดๆ ทั้งสิ้น ผู้คนจะรู้จักเองครับ

นั่นคือมีอายุเพียง22ปีเท่านั้น และ ซินบัสเตียน เวสเทล นั้นเป็นชาว "เยอรมัน" ซึ่งเป็นคนชาติเดียวกันกับ "ไมเคิล ชูมัคเกอร์"
โดย "ไมเคิล ชูมัคเกอร์" นั้นเป็นแชมป์โลกรถ F1 ถึง7สมัยด้วยกัน ที่สำคัญหาตัวจับยากมาก

ความเร็วสูงสุดที่วิ่งได้ประมาณ 400 กม./ชม. แต่สำหรับความเร็วสูงสุดที่ 400 กม./ชม. นั้นจะไม่นำมาวิ่งแข่งขันในสนามแบบนี้ด้วยหลายเหตุผล รถทุกคันที่แข่งขันในสนาม สามารถทำความเร็วแบบนี้ได้หมดครับ

ก่อนหน้านั้น "ในหลวง" ของเราก็ได้ทรงทอดพระเนตรรถสูตร1 ที่ "มาร์ค เว็บเบอร์" ขับถวายท่าน
แหละ "มาร์ค เวบเบอร์" ยังได้อธิบายถึงรายละเอียดต่าง ๆ ให้พระองค์ท่านเข้าใจอย่างใกล้ชิดด้วย
นอกจากนั้น เจ้าของบริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ก็ได้เข้าเฝ้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท "ในหลวง" ของเราด้วย ทั้งนี้ก็นับป็น "เกียรติยศ" และ "ศักดิ์ศรี" แก่วงษ์ตระกูล "อยู่วิทยา" เป็นยิ่งนัก ....ครับท่าน....
....ภาพด้านล่าง..เป็นเส้นทางที่ใช้ขับขี่ในวันเกิดเหตุ ครับ....




มาร์ค เว็บเบอร์ นักขับรถสูตร1ขณะเข้าเฝ้า "ในหลวง" ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น