วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

English 2 with Arjarn ANNA

เรียนภาษาอังกฤษภาคที่ 2 ....กับท่านอาจารย์แอนนา

ครั้งที่เรียนภาษาอังกฤษเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2554 นั้นผมสังเกตุหลายท่าน "พูดอังกฤษปร๋อ" เลยครับ

นั่นแสดงว่าตอนทดสอบภาษาอังกฤษนั้นตอบคำถามไม่ครบทุกข้อ  และหรือไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบคำถามที่แท้จริง

เท่าที่สอบถามกับบางท่านนั้น พบว่าเขามีเวลาน้อยคือมาถึงห้องสอบสายมาก

ดังนั้น...ก่อนหมดเวลาก็เลยต้อง "บรรเลง" เพลงเร็ว แต่กระนั้นก็ยังกาข้อสอบได้ไม่ครบ เนื่องจากเวลาหมดซะก่อน บุคคลที่ผมถามนั้นคือ คุณจำนงค์ใจ ครับ

แต่สำหรับครึ่งห้องก็พยายามสุดความสามารถแล้ว ก็ยัง "ไม่ผ่านเกณฑ์" ของมหาวิทยาลัยตั้งไว้   


ฉะนั้น...จึงต้องเรียนด้วยความจำนน


บทเรียนนั้นก็จะต้องมี "การนำเสนอ" งานหน้าชั้นด้วย  กระผมเองก็จับคู่กับคุณวิเศษ  นำเสนองานเรื่อง "ทัวร์การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น"  ภาพไม่มีนะครับ (นั่นเพราะกระผมก็ "อาย" แฮะ)

แต่....กระผมก็มีภาพของท่านอื่น ๆ ให้ดูนะ   เรามาฟังเพื่อนร่วมห้องเสนอผลงานละกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง  ชื่อเสียงเรียงนามนั้นดูกันเองละกันนะ



มีไม่กี่ท่านที่ไม่ต้องเรียน ถ้าจำไม่ผิดนะจะมีไม่เกิน 6 ท่าน ที่ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษ  นั่นเพราะ "เก่ง" หรือ "กาถูก" ก็ไม่ทราบนะ 555


อย่างเช่น พี่ป๊อก, คุณน้อง , คุณตุ๊ก , คุณเบิร์ด , คุณกุ้ง ,คุณวิบูรณ์


ผมว่า "อาจจะ" ความสามารถล้วน ๆ ก็เป็นได้ (แซวเล่น..ขอรับ  คงเก่งจริง ๆ นั่นแหละน่า)


ช่วงที่เรียนนั้น กระผมเองก็ "รื้อฟื้น" ได้เยอะทีเดียว และได้สิ่งที่ไม่ได้ฝึกหรือไ้ด้ยินเพิ่มเติม นั่นอาจจะเพราะว่ากระผมเองใช้คำไม่มาก หรือในชีวิตประจำวันก็ไม่ค่อยได้ใช้คำมากมายซะเท่าไร


ในภาพนี้ "คุณน้อง" (คนขวามือ) หนึ่งในจำนวนที่ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษ แต่ก็เข้ามาช่วยอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟังว่า คำบางคำต้องใช้อย่างไร และมีความหมายอะไรบ้าง

นั่นเพราะว่า "คุณน้อง" ใช้ภาษาอังกฤษบ่อย และยังเดินทางไปต่างประเทศบ่อยอีกด้วย

ฉะนั้น...เรื่องภาษาอังกฤษของคุณน้องจึงแม่นมาก

แถม...ตอนที่เพื่อน ๆ นำเสนองานหน้าชั้น ยังสอบถามปัญหากับเพื่อน ๆ ซะอีก ก็ทำให้การนำเสนอผลงานของเพื่อน ๆ ที่เรียนภาษาอังกฤษมี "อรรถรส" ที่ดีขึ้นไปอีก

ถึงขั้นท่านอาจารย์แอนนา เอ่ยชมคุณน้องว่า ภาษาอังกฤษของคุณน้อง "ดีมาก" เลยทีเดียว   นั่นน่ะสิ คุณน้องถึงไม่ต้องลงเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมไงล่ะ


เอาหละ...อีกภาพเรามาชม "พี่เมศ" นำเสนอผลงานหน้าห้องอีกภาพกันดีกว่า  ซึ่งเมื่อท่านได้ชมแล้ว....ต้องพิจารณาเอาเองนะ   ...ชมได้เลยครับ....


ช่วงพัก..เราไ้ด้พูดคุยและสอบถามเรื่องราวสาระทุกข์สุขดิบทั่ว ๆ ไปกับอาจารย์  บังเอิญว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 มีเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพมหานครครั้งใหญ่ โดยห่างจากอดีตประมาณ 70 ปี ไม่น่าเชื่อครับว่า ปัจจุบันน้ำจะกลับมาท่วมกรุงเทพฯได้อีกครั้ง (ทำเป็น "ดาวหางฮันเล่ย์" ไปได้ จะมาใกล้โลกทุก ๆ 70 ปี)

ฉะนั้น..เราจึงได้ไถ่ถามความเดือดร้อนของท่านอาจารย์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง 

,,,เชิญรับชมได้เลยครับ,,,



ในภาพนี้เป็น "น้ำท่วมกรุง" เมื่อปี 2485 เป็นเวลา 70 ปีแล้วที่กรุงเทพมหานครห่างเหินจากน้ำท่วมครั้งใหญ่

อดีตนั้น..น้ำท่วมเป็นเรื่องไม่ใหญ่มากนัก เพราะป่าไม้เยอะ ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และถ้าผสมกับมรสุมอีก โอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมก็มีมากขึ้น

ส่วนภาพเคลื่อนไหวด้านล่าง...เป็นของท่านที่เกี่ยวข้องกับวงการวิทยุโทรทัศน์ของประเทศไทยได้ทำไว้  นับว่าเป็นภาพที่น่าดูน่าชม  กระผมจึงไ้ด้สรรหาเก็บไว้  ส่วนบุคคลในภาพปัจจุบันจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่น่่าคิด

นั่นเพราะไม่ว่าใครถ้าได้เห็นภาพของตัวเองที่ยังไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน โดยถูกบันทึกภาพไว้ด้วยคนอื่น และปรากฏให้เห็น  จะเป็นเรื่องที่ "ประทับใจ" มาก

   ....เชิญชมภาพน้ำท่วมกรุง เมื่อ 70 ปีที่แล้วได้เลย...



สำหรับภาพในอดีตต่าง ๆ ที่กระผมทำไว้ ตามด้านหลังนี้เลยครับ (น่าสนใจเช่นกัน) http://gradingthong.blogspot.com/2010/09/blog-post_17.html


หลังจากที่ร่ำเรียนภาษาอังกฤษ 2 ประมาณ 2 เดือน ก็จบหลักสูตร (เสียที) ความรู้ก็ได้รับเพิ่มเติมกันมากมาย และอาจารย์ท่านก็ฝากให้เราไป "ฝึกปรือ" กันต่อไป เพื่อจะได้มีทักษะที่ดีเพิ่มขึ้นไปอีก

จากนั้น...ก่อนที่จะจบการเรียนการสอน เราจึงได้ "มอบของที่ระลึก" บางสิ่งบางอย่างให้กับอาจารย์ ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ซื้อมาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์โดยตรง เพราะช่วงก่อนหน้านั้น เราได้ไปดูงานฝั่งประเทศแถบยุโรป  ดังนั้น..จึงได้มีของติดไม้ติดมือมาฝากอาจารย์ด้วยครับ

การกล่าวนั้น "พี่โจ้" ครับ ได้กล่าวขอบคุณท่านอาจารย์ที่ได้แบ่งปันความรู้ต่าง ๆ ตั้งแต่ภาษาอังกฤษที่เป็นแบบท้องถิ่น และวัฒนธรรมของชาวอังกฤษแบบดั้งเดิม หรือความหมายของภาษาอังกฤษที่เราตีความไม่ถูก

เนื่องจากว่า..อาจารย์แอนนา ไปทำวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาัอังกฤษที่ประเทศอังกฤษให้ดีขึ้น ดังนั้นจึงไ้ด้ประสบการณ์ด้านนี้มากขึ้นนั่นเอง

  ...มาดูกันสิว่า อาจารย์..ฝากอะไรกับเราบ้าง...


ในภาพ "คุณน้อง" ซึ่งไม่ไ้ด้เรียนกับเขาหรอก แต่มาให้กำลังใจเพื่อน ๆ และอธิบายแกะนาฬิกาให้อาจารย์ พร้อมอธิบายว่าร้านที่ซื้อนั้นเป็นร้านอะไร อยู่บริเวณไหนของประเทศสวิสเซอร์แลนด์

นาฬิกาเรือนนี้ กระผมเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นยี่ห้ออะไร เพราะประเทศนี้ทำนาฬิกาหลายยี่ห้อมาก เรียกได้ว่าเป็น "แหล่งนาฬิกา" ก็ว่าได้


ในภาพ(ขวามือ)คือ "นาย..กระดิ่งทอง" พร้อมกับร้าน..บุคเลอร์..ซึ่ง ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ และโดยรอบนั้นก็เป็นร้านจำหน่ายนาฬิกาชั้นนำ คล้าย ๆ กัน บางร้านถูกกว่าบ้าง..แพงกว่าบ้าง ถ้าไม่กลัวเหนื่อยก็สืบค้นราคาได้ในแต่ละร้านครับ


เพียงแต่...เป็นของแท้ ๆ ซึ่งมีแท้เดียวครับ ไม่มีแท้ห้าง หรือ แท้ ๆ หรือ แท้เทียม ๆ ใด ๆ ทั้งสิ้น


นาฬิกาที่ซื้อมาฝากอาจารย์ซื้อจากห้าง "บุคเลอร์" ตั้งอยู่ที่ "เมืองลูเซิน" ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่และมีชื่อเสียง


ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ...ร่วมกับอาจารย์แอนนา แน่นอนครับว่า สิ่งที่ควรจดจำและหวนดูได้ง่ายที่สุดนั่นคือ การถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ


อาจารย์ต้องชวนนักศึกษานะ  ท่านอาจารย์ท่านคงคิดว่า นักศึกษาคงจะเกรงใจ  ท่านอาจารย์จึงชวนนักศึกษาถ่ายภาพซะเองเลย   ครับต้องขอบคุณอาจารย์มากครับที่ให้ความเป็นกันเอง

...ดูภาพเคลื่อนไหวที่ได้บันทึกไว้ก็ได้ครับ...ว่าจริงไหม...


ภาพที่บันทึกออกมา  ก็เป็นด้วยประการฉะนี้แล...  คงครบทุก ๆ ท่านเนอะ

        ภาพถ่ายที่ระลึกอาจารย์ และ นักศึกษา มจพ. X-mie R4

นักศึกษา มจพ. สาขาการจัดการอุตสาหกรรม ระยองรุ่นที่ 4 ได้ร่วมถ่ายภาพกับอาจารย์แอนนา  วันใดครั้งหน้า เมื่อหวนคิดถึงอาจารย์เราก็ยังกลับมาดูภาพที่ได้ "บันทึกภาพ" กับอาจารย์ได้ครับ

อาจจะคิดถึงบรรยากาศการเรียนเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2554 และน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ร่วมด้วย บางครั้งก็อาจจะ "นั่งยิ้ม" อยู่คนเดียวก็ได้...ครับ

ภาพสุดท้าย...แต่...ไม่ท้ายสุด เป็นการสนทนาบางส่วนที่บันทึกได้  เป็นการ "เก็บบรรยากาศ" ไว้เป็นที่ระลึก   ยามใดที่คิดถึงกันก็เข้ามาเปิดดูได้ตลอดครับ

...เชิญชม...ว่ามีอะไรน๊า...


ขอบคุณสำหรับการเป็นกันเองของทุก ๆ ท่านครับ

จาก...กระดิ่งทอง X-mie R4