เรียนภาษาอังกฤษภาคที่ 2 ....กับท่านอาจารย์แอนนา
ครั้งที่เรียนภาษาอังกฤษเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2554 นั้นผมสังเกตุหลายท่าน "พูดอังกฤษปร๋อ" เลยครับ
เท่าที่สอบถามกับบางท่านนั้น พบว่าเขามีเวลาน้อยคือมาถึงห้องสอบสายมาก
ดังนั้น...ก่อนหมดเวลาก็เลยต้อง "บรรเลง" เพลงเร็ว แต่กระนั้นก็ยังกาข้อสอบได้ไม่ครบ เนื่องจากเวลาหมดซะก่อน บุคคลที่ผมถามนั้นคือ คุณจำนงค์ใจ ครับ
แต่สำหรับครึ่งห้องก็พยายามสุดความสามารถแล้ว ก็ยัง "ไม่ผ่านเกณฑ์" ของมหาวิทยาลัยตั้งไว้
ฉะนั้น...จึงต้องเรียนด้วยความจำนน
บทเรียนนั้นก็จะต้องมี "การนำเสนอ" งานหน้าชั้นด้วย กระผมเองก็จับคู่กับคุณวิเศษ นำเสนองานเรื่อง "ทัวร์การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น" ภาพไม่มีนะครับ (นั่นเพราะกระผมก็ "อาย" แฮะ)
แต่....กระผมก็มีภาพของท่านอื่น ๆ ให้ดูนะ เรามาฟังเพื่อนร่วมห้องเสนอผลงานละกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง ชื่อเสียงเรียงนามนั้นดูกันเองละกันนะ
มีไม่กี่ท่านที่ไม่ต้องเรียน ถ้าจำไม่ผิดนะจะมีไม่เกิน 6 ท่าน ที่ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษ นั่นเพราะ "เก่ง" หรือ "กาถูก" ก็ไม่ทราบนะ 555
อย่างเช่น พี่ป๊อก, คุณน้อง , คุณตุ๊ก , คุณเบิร์ด , คุณกุ้ง ,คุณวิบูรณ์
ผมว่า "อาจจะ" ความสามารถล้วน ๆ ก็เป็นได้ (แซวเล่น..ขอรับ คงเก่งจริง ๆ นั่นแหละน่า)
ช่วงที่เรียนนั้น กระผมเองก็ "รื้อฟื้น" ได้เยอะทีเดียว และได้สิ่งที่ไม่ได้ฝึกหรือไ้ด้ยินเพิ่มเติม นั่นอาจจะเพราะว่ากระผมเองใช้คำไม่มาก หรือในชีวิตประจำวันก็ไม่ค่อยได้ใช้คำมากมายซะเท่าไร
ในภาพนี้ "คุณน้อง" (คนขวามือ) หนึ่งในจำนวนที่ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษ แต่ก็เข้ามาช่วยอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟังว่า คำบางคำต้องใช้อย่างไร และมีความหมายอะไรบ้าง
นั่นเพราะว่า "คุณน้อง" ใช้ภาษาอังกฤษบ่อย และยังเดินทางไปต่างประเทศบ่อยอีกด้วย
ฉะนั้น...เรื่องภาษาอังกฤษของคุณน้องจึงแม่นมาก
แถม...ตอนที่เพื่อน ๆ นำเสนองานหน้าชั้น ยังสอบถามปัญหากับเพื่อน ๆ ซะอีก ก็ทำให้การนำเสนอผลงานของเพื่อน ๆ ที่เรียนภาษาอังกฤษมี "อรรถรส" ที่ดีขึ้นไปอีก
ถึงขั้นท่านอาจารย์แอนนา เอ่ยชมคุณน้องว่า ภาษาอังกฤษของคุณน้อง "ดีมาก" เลยทีเดียว นั่นน่ะสิ คุณน้องถึงไม่ต้องลงเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมไงล่ะ
เอาหละ...อีกภาพเรามาชม "พี่เมศ" นำเสนอผลงานหน้าห้องอีกภาพกันดีกว่า ซึ่งเมื่อท่านได้ชมแล้ว....ต้องพิจารณาเอาเองนะ ...ชมได้เลยครับ....
ช่วงพัก..เราไ้ด้พูดคุยและสอบถามเรื่องราวสาระทุกข์สุขดิบทั่ว ๆ ไปกับอาจารย์ บังเอิญว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 มีเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพมหานครครั้งใหญ่ โดยห่างจากอดีตประมาณ 70 ปี ไม่น่าเชื่อครับว่า ปัจจุบันน้ำจะกลับมาท่วมกรุงเทพฯได้อีกครั้ง (ทำเป็น "ดาวหางฮันเล่ย์" ไปได้ จะมาใกล้โลกทุก ๆ 70 ปี)
ฉะนั้น..เราจึงได้ไถ่ถามความเดือดร้อนของท่านอาจารย์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
,,,เชิญรับชมได้เลยครับ,,,
ในภาพนี้เป็น "น้ำท่วมกรุง" เมื่อปี 2485 เป็นเวลา 70 ปีแล้วที่กรุงเทพมหานครห่างเหินจากน้ำท่วมครั้งใหญ่
อดีตนั้น..น้ำท่วมเป็นเรื่องไม่ใหญ่มากนัก เพราะป่าไม้เยอะ ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และถ้าผสมกับมรสุมอีก โอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมก็มีมากขึ้น
นั่นเพราะไม่ว่าใครถ้าได้เห็นภาพของตัวเองที่ยังไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน โดยถูกบันทึกภาพไว้ด้วยคนอื่น และปรากฏให้เห็น จะเป็นเรื่องที่ "ประทับใจ" มาก
....เชิญชมภาพน้ำท่วมกรุง เมื่อ 70 ปีที่แล้วได้เลย...
สำหรับภาพในอดีตต่าง ๆ ที่กระผมทำไว้ ตามด้านหลังนี้เลยครับ (น่าสนใจเช่นกัน) http://gradingthong.blogspot.com/2010/09/blog-post_17.html
หลังจากที่ร่ำเรียนภาษาอังกฤษ 2 ประมาณ 2 เดือน ก็จบหลักสูตร (เสียที) ความรู้ก็ได้รับเพิ่มเติมกันมากมาย และอาจารย์ท่านก็ฝากให้เราไป "ฝึกปรือ" กันต่อไป เพื่อจะได้มีทักษะที่ดีเพิ่มขึ้นไปอีก
จากนั้น...ก่อนที่จะจบการเรียนการสอน เราจึงได้ "มอบของที่ระลึก" บางสิ่งบางอย่างให้กับอาจารย์ ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ซื้อมาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์โดยตรง เพราะช่วงก่อนหน้านั้น เราได้ไปดูงานฝั่งประเทศแถบยุโรป ดังนั้น..จึงได้มีของติดไม้ติดมือมาฝากอาจารย์ด้วยครับ
ครั้งที่เรียนภาษาอังกฤษเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2554 นั้นผมสังเกตุหลายท่าน "พูดอังกฤษปร๋อ" เลยครับ
นั่นแสดงว่าตอนทดสอบภาษาอังกฤษนั้นตอบคำถามไม่ครบทุกข้อ และหรือไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบคำถามที่แท้จริง
เท่าที่สอบถามกับบางท่านนั้น พบว่าเขามีเวลาน้อยคือมาถึงห้องสอบสายมาก
ดังนั้น...ก่อนหมดเวลาก็เลยต้อง "บรรเลง" เพลงเร็ว แต่กระนั้นก็ยังกาข้อสอบได้ไม่ครบ เนื่องจากเวลาหมดซะก่อน บุคคลที่ผมถามนั้นคือ คุณจำนงค์ใจ ครับ
แต่สำหรับครึ่งห้องก็พยายามสุดความสามารถแล้ว ก็ยัง "ไม่ผ่านเกณฑ์" ของมหาวิทยาลัยตั้งไว้
ฉะนั้น...จึงต้องเรียนด้วยความจำนน
บทเรียนนั้นก็จะต้องมี "การนำเสนอ" งานหน้าชั้นด้วย กระผมเองก็จับคู่กับคุณวิเศษ นำเสนองานเรื่อง "ทัวร์การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น" ภาพไม่มีนะครับ (นั่นเพราะกระผมก็ "อาย" แฮะ)
แต่....กระผมก็มีภาพของท่านอื่น ๆ ให้ดูนะ เรามาฟังเพื่อนร่วมห้องเสนอผลงานละกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง ชื่อเสียงเรียงนามนั้นดูกันเองละกันนะ
มีไม่กี่ท่านที่ไม่ต้องเรียน ถ้าจำไม่ผิดนะจะมีไม่เกิน 6 ท่าน ที่ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษ นั่นเพราะ "เก่ง" หรือ "กาถูก" ก็ไม่ทราบนะ 555
อย่างเช่น พี่ป๊อก, คุณน้อง , คุณตุ๊ก , คุณเบิร์ด , คุณกุ้ง ,คุณวิบูรณ์
ผมว่า "อาจจะ" ความสามารถล้วน ๆ ก็เป็นได้ (แซวเล่น..ขอรับ คงเก่งจริง ๆ นั่นแหละน่า)
ช่วงที่เรียนนั้น กระผมเองก็ "รื้อฟื้น" ได้เยอะทีเดียว และได้สิ่งที่ไม่ได้ฝึกหรือไ้ด้ยินเพิ่มเติม นั่นอาจจะเพราะว่ากระผมเองใช้คำไม่มาก หรือในชีวิตประจำวันก็ไม่ค่อยได้ใช้คำมากมายซะเท่าไร
ในภาพนี้ "คุณน้อง" (คนขวามือ) หนึ่งในจำนวนที่ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษ แต่ก็เข้ามาช่วยอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟังว่า คำบางคำต้องใช้อย่างไร และมีความหมายอะไรบ้าง
นั่นเพราะว่า "คุณน้อง" ใช้ภาษาอังกฤษบ่อย และยังเดินทางไปต่างประเทศบ่อยอีกด้วย
ฉะนั้น...เรื่องภาษาอังกฤษของคุณน้องจึงแม่นมาก
แถม...ตอนที่เพื่อน ๆ นำเสนองานหน้าชั้น ยังสอบถามปัญหากับเพื่อน ๆ ซะอีก ก็ทำให้การนำเสนอผลงานของเพื่อน ๆ ที่เรียนภาษาอังกฤษมี "อรรถรส" ที่ดีขึ้นไปอีก
ถึงขั้นท่านอาจารย์แอนนา เอ่ยชมคุณน้องว่า ภาษาอังกฤษของคุณน้อง "ดีมาก" เลยทีเดียว นั่นน่ะสิ คุณน้องถึงไม่ต้องลงเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมไงล่ะ
เอาหละ...อีกภาพเรามาชม "พี่เมศ" นำเสนอผลงานหน้าห้องอีกภาพกันดีกว่า ซึ่งเมื่อท่านได้ชมแล้ว....ต้องพิจารณาเอาเองนะ ...ชมได้เลยครับ....
ช่วงพัก..เราไ้ด้พูดคุยและสอบถามเรื่องราวสาระทุกข์สุขดิบทั่ว ๆ ไปกับอาจารย์ บังเอิญว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 มีเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพมหานครครั้งใหญ่ โดยห่างจากอดีตประมาณ 70 ปี ไม่น่าเชื่อครับว่า ปัจจุบันน้ำจะกลับมาท่วมกรุงเทพฯได้อีกครั้ง (ทำเป็น "ดาวหางฮันเล่ย์" ไปได้ จะมาใกล้โลกทุก ๆ 70 ปี)
ฉะนั้น..เราจึงได้ไถ่ถามความเดือดร้อนของท่านอาจารย์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
,,,เชิญรับชมได้เลยครับ,,,
ในภาพนี้เป็น "น้ำท่วมกรุง" เมื่อปี 2485 เป็นเวลา 70 ปีแล้วที่กรุงเทพมหานครห่างเหินจากน้ำท่วมครั้งใหญ่
อดีตนั้น..น้ำท่วมเป็นเรื่องไม่ใหญ่มากนัก เพราะป่าไม้เยอะ ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และถ้าผสมกับมรสุมอีก โอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมก็มีมากขึ้น
ส่วนภาพเคลื่อนไหวด้านล่าง...เป็นของท่านที่เกี่ยวข้องกับวงการวิทยุโทรทัศน์ของประเทศไทยได้ทำไว้ นับว่าเป็นภาพที่น่าดูน่าชม กระผมจึงไ้ด้สรรหาเก็บไว้ ส่วนบุคคลในภาพปัจจุบันจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่น่่าคิด
นั่นเพราะไม่ว่าใครถ้าได้เห็นภาพของตัวเองที่ยังไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน โดยถูกบันทึกภาพไว้ด้วยคนอื่น และปรากฏให้เห็น จะเป็นเรื่องที่ "ประทับใจ" มาก
....เชิญชมภาพน้ำท่วมกรุง เมื่อ 70 ปีที่แล้วได้เลย...
สำหรับภาพในอดีตต่าง ๆ ที่กระผมทำไว้ ตามด้านหลังนี้เลยครับ (น่าสนใจเช่นกัน) http://gradingthong.blogspot.com/2010/09/blog-post_17.html
หลังจากที่ร่ำเรียนภาษาอังกฤษ 2 ประมาณ 2 เดือน ก็จบหลักสูตร (เสียที) ความรู้ก็ได้รับเพิ่มเติมกันมากมาย และอาจารย์ท่านก็ฝากให้เราไป "ฝึกปรือ" กันต่อไป เพื่อจะได้มีทักษะที่ดีเพิ่มขึ้นไปอีก
จากนั้น...ก่อนที่จะจบการเรียนการสอน เราจึงได้ "มอบของที่ระลึก" บางสิ่งบางอย่างให้กับอาจารย์ ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ซื้อมาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์โดยตรง เพราะช่วงก่อนหน้านั้น เราได้ไปดูงานฝั่งประเทศแถบยุโรป ดังนั้น..จึงได้มีของติดไม้ติดมือมาฝากอาจารย์ด้วยครับ
การกล่าวนั้น "พี่โจ้" ครับ ได้กล่าวขอบคุณท่านอาจารย์ที่ได้แบ่งปันความรู้ต่าง ๆ ตั้งแต่ภาษาอังกฤษที่เป็นแบบท้องถิ่น และวัฒนธรรมของชาวอังกฤษแบบดั้งเดิม หรือความหมายของภาษาอังกฤษที่เราตีความไม่ถูก
เนื่องจากว่า..อาจารย์แอนนา ไปทำวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาัอังกฤษที่ประเทศอังกฤษให้ดีขึ้น ดังนั้นจึงไ้ด้ประสบการณ์ด้านนี้มากขึ้นนั่นเอง
...มาดูกันสิว่า อาจารย์..ฝากอะไรกับเราบ้าง...
ในภาพ "คุณน้อง" ซึ่งไม่ไ้ด้เรียนกับเขาหรอก แต่มาให้กำลังใจเพื่อน ๆ และอธิบายแกะนาฬิกาให้อาจารย์ พร้อมอธิบายว่าร้านที่ซื้อนั้นเป็นร้านอะไร อยู่บริเวณไหนของประเทศสวิสเซอร์แลนด์
นาฬิกาเรือนนี้ กระผมเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นยี่ห้ออะไร เพราะประเทศนี้ทำนาฬิกาหลายยี่ห้อมาก เรียกได้ว่าเป็น "แหล่งนาฬิกา" ก็ว่าได้
ในภาพ(ขวามือ)คือ "นาย..กระดิ่งทอง" พร้อมกับร้าน..บุคเลอร์..ซึ่ง ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ และโดยรอบนั้นก็เป็นร้านจำหน่ายนาฬิกาชั้นนำ คล้าย ๆ กัน บางร้านถูกกว่าบ้าง..แพงกว่าบ้าง ถ้าไม่กลัวเหนื่อยก็สืบค้นราคาได้ในแต่ละร้านครับ
เพียงแต่...เป็นของแท้ ๆ ซึ่งมีแท้เดียวครับ ไม่มีแท้ห้าง หรือ แท้ ๆ หรือ แท้เทียม ๆ ใด ๆ ทั้งสิ้น
นาฬิกาที่ซื้อมาฝากอาจารย์ซื้อจากห้าง "บุคเลอร์" ตั้งอยู่ที่ "เมืองลูเซิน" ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่และมีชื่อเสียง
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ...ร่วมกับอาจารย์แอนนา แน่นอนครับว่า สิ่งที่ควรจดจำและหวนดูได้ง่ายที่สุดนั่นคือ การถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ
อาจารย์ต้องชวนนักศึกษานะ ท่านอาจารย์ท่านคงคิดว่า นักศึกษาคงจะเกรงใจ ท่านอาจารย์จึงชวนนักศึกษาถ่ายภาพซะเองเลย ครับต้องขอบคุณอาจารย์มากครับที่ให้ความเป็นกันเอง
...ดูภาพเคลื่อนไหวที่ได้บันทึกไว้ก็ได้ครับ...ว่าจริงไหม...
ภาพที่บันทึกออกมา ก็เป็นด้วยประการฉะนี้แล... คงครบทุก ๆ ท่านเนอะ
ภาพถ่ายที่ระลึกอาจารย์ และ นักศึกษา มจพ. X-mie R4
นักศึกษา มจพ. สาขาการจัดการอุตสาหกรรม ระยองรุ่นที่ 4 ได้ร่วมถ่ายภาพกับอาจารย์แอนนา วันใดครั้งหน้า เมื่อหวนคิดถึงอาจารย์เราก็ยังกลับมาดูภาพที่ได้ "บันทึกภาพ" กับอาจารย์ได้ครับ
อาจจะคิดถึงบรรยากาศการเรียนเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2554 และน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ร่วมด้วย บางครั้งก็อาจจะ "นั่งยิ้ม" อยู่คนเดียวก็ได้...ครับ
ภาพสุดท้าย...แต่...ไม่ท้ายสุด เป็นการสนทนาบางส่วนที่บันทึกได้ เป็นการ "เก็บบรรยากาศ" ไว้เป็นที่ระลึก ยามใดที่คิดถึงกันก็เข้ามาเปิดดูได้ตลอดครับ
...เชิญชม...ว่ามีอะไรน๊า...
ขอบคุณสำหรับการเป็นกันเองของทุก ๆ ท่านครับ
จาก...กระดิ่งทอง X-mie R4
ในภาพ(ขวามือ)คือ "นาย..กระดิ่งทอง" พร้อมกับร้าน..บุคเลอร์..ซึ่ง ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ และโดยรอบนั้นก็เป็นร้านจำหน่ายนาฬิกาชั้นนำ คล้าย ๆ กัน บางร้านถูกกว่าบ้าง..แพงกว่าบ้าง ถ้าไม่กลัวเหนื่อยก็สืบค้นราคาได้ในแต่ละร้านครับ
เพียงแต่...เป็นของแท้ ๆ ซึ่งมีแท้เดียวครับ ไม่มีแท้ห้าง หรือ แท้ ๆ หรือ แท้เทียม ๆ ใด ๆ ทั้งสิ้น
นาฬิกาที่ซื้อมาฝากอาจารย์ซื้อจากห้าง "บุคเลอร์" ตั้งอยู่ที่ "เมืองลูเซิน" ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่และมีชื่อเสียง
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ...ร่วมกับอาจารย์แอนนา แน่นอนครับว่า สิ่งที่ควรจดจำและหวนดูได้ง่ายที่สุดนั่นคือ การถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ
อาจารย์ต้องชวนนักศึกษานะ ท่านอาจารย์ท่านคงคิดว่า นักศึกษาคงจะเกรงใจ ท่านอาจารย์จึงชวนนักศึกษาถ่ายภาพซะเองเลย ครับต้องขอบคุณอาจารย์มากครับที่ให้ความเป็นกันเอง
...ดูภาพเคลื่อนไหวที่ได้บันทึกไว้ก็ได้ครับ...ว่าจริงไหม...
ภาพที่บันทึกออกมา ก็เป็นด้วยประการฉะนี้แล... คงครบทุก ๆ ท่านเนอะ
ภาพถ่ายที่ระลึกอาจารย์ และ นักศึกษา มจพ. X-mie R4
นักศึกษา มจพ. สาขาการจัดการอุตสาหกรรม ระยองรุ่นที่ 4 ได้ร่วมถ่ายภาพกับอาจารย์แอนนา วันใดครั้งหน้า เมื่อหวนคิดถึงอาจารย์เราก็ยังกลับมาดูภาพที่ได้ "บันทึกภาพ" กับอาจารย์ได้ครับ
อาจจะคิดถึงบรรยากาศการเรียนเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2554 และน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ร่วมด้วย บางครั้งก็อาจจะ "นั่งยิ้ม" อยู่คนเดียวก็ได้...ครับ
ภาพสุดท้าย...แต่...ไม่ท้ายสุด เป็นการสนทนาบางส่วนที่บันทึกได้ เป็นการ "เก็บบรรยากาศ" ไว้เป็นที่ระลึก ยามใดที่คิดถึงกันก็เข้ามาเปิดดูได้ตลอดครับ
...เชิญชม...ว่ามีอะไรน๊า...
ขอบคุณสำหรับการเป็นกันเองของทุก ๆ ท่านครับ
จาก...กระดิ่งทอง X-mie R4