คลื่น "สินามิ" ในประเทศญี่ปุ่นครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันนี้ 11 มีนาคม ปี 2554 ที่ประเทศญี่ปุ่น เราเรียกชื่อตาม "ฉายา" ภาษาญี่ปุ่นที่ตั้งชื่อไว้ว่า "สินามิ" หรือ "น้ำทะเลไหลล้นเข้าท่วมฝั่ง"
เหตุเกิดจากมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกที่มหาสมุทรแปซิฟิก แผ่นดินไหวเราจะแยกเป็น 2 ประเภท คือ
1. แผ่นดินไหวที่เกิด "บนบก" และ
2. เกิดใน "ทะเล"
ถ้าเกิดบนบก จะทำให้บรรดาบ้านเรือน, ถนนหนทาง และสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในบริเวณนั้นสั่นสะเทือนและได้รับความเสียหายโดยตรง
แต่ถ้าเกิดขึ้นที่ทะเล จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนเช่นกัน แต่จะมีเพิ่มเติมคือมี "คลื่นยักษ์" เข้าถาโถมฝั่งหรือที่เรียกกันว่า"สึนามิ" นั่นเอง
ท่านสามารถ"พิสูจน์"หรือ "ทดลอง" การเกิดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ที่ "ศูนย์วิทยาศาสตร์คลอง5" จังหวัดปทุมธานี
แล้วท่านจะทราบถึงการเกิดแผ่นดินไหวได้เลย ...ว่ามันเป็นอย่างไร...
การเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้จะอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวค่อนไปทางทิศเหนือของประเทศญี่ปุ่นห่างเป็นระยะทางประมาณ 382 กิโลเมตร
ความเป็นจริงแล้วการเกิดแผ่นดินไหวนั้นไม่ได้ไกลฝั่งมากเลย ห่างจากฝั่งระยะไม่เกิน 70 กม. ซึ่งจุดศูนย์กลางนั้นอยู่ใกล้ปลายเกาะฮอนชูมาก
ซึ่งเป็นแนวเดียวกันกับเกาะฮอกไกโดซะด้วย ในการเกิดแผ่นดินไว้ครั้งนี้สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ประมาณ 8.9 ริกเตอร์
ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ "สินามิ" สูงประมาณ 7 เมตร ไหลล้นฝั่งหรือแผ่นดินที่อยู่อาศัยของผู้คน
ซึ่งน้ำที่เข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า โรงงานที่อยู่ริมฝั่งทิศตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นจะเป็นลักษณะ "ค่อย ๆ" ไหลเข้าท่วม และเป็นลักษณะ "คลื่นกระทบฝั่ง" เหมือนที่เคยเห็น ๆ กันมา
บริเวณที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ริมฝั่ง Miyagi (มิยากิ) บนเกาะ "ฮอนชู" เหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ ทำให้รถไฟใต้ดินต้องหยุดวิ่ง ตึกสูง ๆ ในมหานครโตเกียวเกิดการสั่นสะเทือน
จึงทำให้ผู้คนต้องออกจากสถานีรถไฟและออกจากตึกสูง ๆ เหล่านั้น ยังผลทำให้เกิดความ "โกลาหล" เป็นยิ่งนัก
รัฐบาลจะกำหนดไว้ว่า บริเวณใดที่เสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบกับแผ่นดินไหวจะไม่ให้สร้างตึกสูง ๆ ซึ่งเป็นการป้องกันอันตรายอีกวิธีหนึ่ง
เกาะใหญ่ ๆ ของประเทศญี่ปุ่นเองจะมีทั้งหมด 4 เกาะ เกาะที่ใหญ่สุดของประเทศคือเกาะ "ฮอนชู" คือผืนแผ่นดินใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
โดยตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศ เพราะเกาะทางด้านทิศเหนือสุดคือ เกาะฮอกไกโด และ ทิศใต้ของญี่ปุ่นจะเป็นเกาะ คิวชู
ส่วนอีกเกาะคือ เกาะชิโกกุ นั้นก็ใกล้เคียงแต่ไม่ใช่ใต้สุด แต่เกาะแก่งทั้งหมดของญี่ปุ่นเองจะนับได้ประมาณ 4,658 เกาะ หนึ่งในนี้คือเมือง "สึ" ครับ
เมืองสึนี้เป็นเมืองที่อยู่ทางภาคกลางของประเทศญี่ปุ่นอยู่บนเกาะ "ฮอนชู" นี่แหละครับ ฉะนั้นจึง "ไม่ค่อย" ได้รับผลกระทบกับคลื่นสินามิโดยตรง
จะกระทบแบบอ้อม ๆ เพราะจะมีแผ่นดินส่วนหนึ่งกันคลื่นไว้ ฉะนั้น บริเวณเมือง "สึ" นี้จะมีน้ำค่อย ๆ เข้าท่วมบางแห่งเท่านั้นก็คล้าย ๆ บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ที่มีน้ำขึ้นสูงซัก 30 ซม.
ดังนั้น..ก็จะคล้ายกับน้ำที่ล้นถังเก็บไม่มีแรงกระแทกมากมายที่เมือง "สึ" ครับ ที่ได้กล่าวแบบเน้น ๆ ที่ "เมืองสึ" นี้เพราะว่าที่แห่งนี้เป็นที่ซึ่ง "น้องชาย" ของกระผมเอง (น้องชายของ "กระดิ่งทอง") อาศัยอยู่ที่เมืองสึนี้พร้อมกับครอบครัวรวม 4 ชีวิต
"เมืองสึ" ถือได้ว่าเป็นเมืองที่สงบไม่พลุ๊กพล่านอย่างเมืองใหญ่ ๆ การใช้ชีวิตของ "น้องหรั่ง" ในญี่ปุ่นโดยไม่นับรวมสมัยไปเรียนปริญญาโทก็นับรวมได้ 4 ปี แล้วขอรับ
เหตุที่ได้ไปอยู่เมืองนี้เพราะไปเรียน "ด๊อกเตอร์" ด้านวิศวกรรม ได้ทุนของ กพ.ไปครับ ซึ่งก็เหลือเวลาที่จะจบอีก 2 ปีข้างหน้า ป่านนี้ยังไม่ทราบว่า เป็นอย่างไรครับ
หลังจากนั้น ตอนดึก ๆ ถึงจะติดต่อกันได้ ก็ปลอยภัยดีทุกคนครับ น้องบอกว่า เขาใส่ใจและแจ้งการ "เตือนภัย" แบบดีเยี่ยมและขนคนออกจากพี้นที่ได้ดีมาก ก็ "สบายใจ" ขึ้นเยอะครับ
ณ. เมืองสึ เมืองสึนี้เป็นเมืองเล็กเมืองหนึ่งในจังหวัด "มิเอะ" หลายท่านอาจจะไม่คุ้นเคยชื่อของเมืองแห่งนี้
เมือง "สึ" นั้นอยู่ไม่ไกลจากเมือง "นาโงย่า" ซักเท่าไรพื้นที่เขตแดนติดกันเลย บริเวณแต่ละจังหวัดของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ประมาณแต่ละจังหวัดของประเทศไทยแหละครับ
เมือง "นาโงย่า" นั้นตั้งอยู่ในจังหวัด "ไอจิ" ซึ่งที่นี่ก็จะมีสนามบินที่ดัง นั่นคือ สนามบินนาโงย่า หรือชื่อทางการคือ "Central Chuba"
สนามบินนาโงย่าก็สร้างขึ้นมาจากการถมดินซึ่งอยู่นอกชายฝั่งห่างออกไปประมาณ 4 กม.
สนามบินที่เกิดจากการถมดินในทะเลของประเทศญี่ปุ่นเองนั้นมีด้วยกัน 2 ที่ คือ "สนามบินนาโงย่า" และ "สนามบินคันไซที่โอซาก้า"
ลักษณะการขนส่งผู้โดยสารจากสนามบินไปฝั่งก็ทำได้โดยรถไฟและเรือข้ามฝาก เพราะบางจุดรถไฟไม่ได้วิ่งผ่าน
ดังนั้น..ก็จะสัญจรโดยเรือข้ามฝาก เช่น ถ้าจากสนามบิน "นาโงย่า" จะไปที่ "เมืองสึ" ก็จะมาด้วยเรือข้ามฝากก็ได้ จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 45 นาที รถไฟฟ้าก็มาได้แต่เส้นทางจะอ้อมมาก
จากเหตุการณ์ "แผ่นดินไหว" นั้น สิ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงอีกแห่งหนึ่งคือโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ริมฝั่งทะเลของญี่ปุ่น
ส่วนหนึ่งของโรงงานคือจุดที่เป็นถังเก็บก๊าซ "LPG" หรือ "ก๊าซหุงต้ม" ในบ้านเรือนเรานี่แหละ เกิดการลุกติดไฟ ทำให้มีไฟไหม้เสียหายทั้งหมดเลย
เรามีภาพขณะที่น้ำไหลเข้าท่วมล้น "สนามบินเซนได" สนามบินแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ "ริมทะเล" ยังโชคดีมากที่ขณะนั้นไม่มีเครื่องบินจอดให้บริการ
การไหลของน้ำเข้าท่วมสนามบินครั้งนี้เร็วมาก และท่วมสูงด้วย คาดว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เสียหายจากแรงกระแทกของน้ำเยอะมาก
เหตุการณ์แบบนี้หรือแบบไหน ๆ เราก็ไม่อยากให้เกิด สิ่งที่เกิดจากธรรมชาติคนเราพยายามติดตามและป้องกัน แต่...บางครั้งก็สุดวิสัยเกินกว่าจะรับไว้ได้
รวมภาพการเกิด "สึนามิ" ของญี่ปุ่นปี 2554
ภาพน้ำเข้าท่วมสนามบิน "เซนได"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น