เมื่อวันที่ 14-15 กรกฏาคม 2555 เหตุการณ์ครั้งสำคัญได้ก่อกำเนิดขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี นั่นคือ..พิธีปัจฉิมนิเทศน์นักศึกษา X-mie R-4,A2 หรือเป็นการร่วมยินดีำสำหรับการจบการศึกษาของเหล่านักศึกษา และ..พิธีปฐมนิเทศน์นักศึกษา X-mie R-6,A4 หรือ..ยินดีต้อนรับนักศึกษาชุดใหม่
สำหรับการมานะและบุกบั่นกับการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการจัดการอุตสาหกรรม ช่วงระยะเวลา 2 ปีนั้น ถือได้ว่า "สุดยอด" มากครับ ได้อะไร ๆ หลาย ๆ อย่างทั้งคำว่า เพื่อน ,พี่ ,น้อง,ความรู้
และครั้งนี้เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องบอกว่า "ภาคภูมิใจ" อีกครั้งหนึ่งในชีวิตกับการร่วมยินดีสำหรับการ "จบการศึกษา" ถึงแม้จะมีบางท่าน "ติดขัด" อะไร ๆ บางประการ ..แต่..ก็ขอเป็นกำลังที่จะให้จบด้วยกันครับ
หนึ่งในนั้นที่พี่ท่านหนึ่งที่ "มารับ" ตั้งแต่วันเข้าเรียนเมื่อสองปีก่อน และ "มาส่ง" เมื่อวันที่กระผมหรือเพื่อนนักศึกษาที่เรียนจบ นั่นคือ "พี่จงกล" ครับ ...กระผมขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ...
พี่จงกล..นั้น แท้จริงท่านเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี" ชื่อคือ อ.จงกล สุภารัตน์ ลิงท์ของมหาวิทยาลัยตามนี้ครับ http://www.rmutt.ac.th/
ท่านมีตำแหน่งถึง "หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ" ลิงท์ตามนี้เลย http://web.en.rmutt.ac.th/iee/
ในภาพนี้..กำลังสนทนาอยู่กับ "คุณใหม่" (คนนั่ง) ซึ่งก็ถือว่าเป็นอาจารย์ผมอีกคนละกัน มีความเก่งฉกาจใกล้เคียงกัน
คุณใหม่ไม่ได้เป็นอาจารย์สอนหรอก ทำงานเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ความรู้ความสามารถ "ระดับพระกาฬ" ถ้าปัจจุบันจะเรียก "ขั้นเทพ"
แน่นอนว่า..ความประทับใจที่ผ่านมา "ลืมยาก" สำหรับ A-2 นั้นที่กระผมสังเกตุ อยู่แบบ "ฉันท์พี่ฉันท์น้อง" จริง ๆ
อีกด้านขวามือ...เป็นบันทึกภาพแห่งความทรงจำของกลุ่มนักศึกษา A-2 ร่วมกับท่านอาจารย์ ดร.ดร.อรรถกร เก่งพล ท่านเป็นที่ปรึกษาของรุ่น A-2 ด้วย
เมื่อครั้งไปศึกษาดูงานที่แถบประเทศยุโรป ท่านอาจารย์อรรถกร เก่งพล ได้เป็นผู้นำเที่ยวให้กับกลุ่มเราด้วย และท่านก็ยังเล่าเรื่องต่าง ๆ ของสถานที่นั้นให้ฟังแบบไม่หวงความรู้ เสมือนกับหัวหน้าทัวร์คนหนึ่งเลย
ลิงท์ท่องเที่ยวยุโรปดูได้ตามนี้ครับ http://gradingthong.blogspot.com/search/label/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B%2022-28%20%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%202554%20%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C
ต่อไป...ขอถ่ายภาพเดี่ยวเพื่อความเป็นสิริมงคลหน่อย หรือเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ
ในภาพนี้คือ "คุณสุทัศน์" นักศึกษาของ "อมตะ รุ่น A-2" ซึ่งคุณสุทัศน์เป็นหนึ่งที่ทำสารนิพนธ์กับท่านอาจารย์สมเกียรติ จงประสิทธิ์พร ร่วมกับกระผมและคุณวิเศษ โกรัตนะ
ช่วงที่ทำสาระนิพนธ์นั้นทั้งสามหน่อ..ก็ไป ๆ มา ๆ เพื่อที่จะแก้ไขสารนิพนธ์กันตั้งหลายรอบครับ "หืดขึ้นคอ" ก็รู้สึกได้ในคราวนี้แหละครับ
ภาพต่อไปเป็น "น้อง..อ๊าร์ต" ครับ เพิ่งจบ ป.ตรี มาหมาด ๆ เลย แล้วเข้าศึกษาต่อ ป.โท แบบต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ขาดตอน
ดังนั้น..ความคิดความอ่านจึงยังสดอยู่ แหละน้องเค้าเองเป็น "ศิษย์เก่า มจพ." เมื่อศึกษาต่อสายเดิมจึงไม่ต้องปรับปรุงอะไรมากมาย เพราะคุ้นเคยอะไร ๆ อยู่บ้าง
น้องอาร์ต ..ถือได้ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงคนหนึ่งที่ผมพบเจอ มีอะไร ๆ ดี ๆ ที่แฝงอยู่ในตัวมากมาย
ภาพต่อไปคือ "พี่..ชิน" ครับ พี่ท่านเรียนนับครั้งนี้ได้ "ใบปริญญาโท รวมแล้ว 2 ใบ" ด้วยกันครับ ใบแรกเป็นเรื่อง "การบริหารจัดการ" จากมหาวิทยาลัยบูรพา ส่วนใบที่สองนี้เป็นเรื่อง "การจัดการอุตสาหกรรม" ครับ จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
จากความรู้ที่ได้ร่ำเรียนหนนี้ พี่ท่านสามารถนำไปใช้กับงานไ้ด้มากมาย และตรงกับสายงานมาก และท่านยังมีความคิดความอ่านที่ "ปราชญ์เปรื่อง" มาก ผมยังยอมรับในความคิดของท่านเลย
ช่วงบ่าย..เป็นงาน "รับน้อง" ของ "รุ่นพี่" ของวันที่ 14 กรกฏาคม 2555 ที่จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งหมดมี 8 ซุ้มด้วยกัน
ซุ้มของรุ่นพี่นักศึกษาระยอง R-4 เป็นซุ้มที่ 5 ครับท่าน
งานสำคัญ ๆ แบบนี้ เราไ้ด้ "ช่างภาพฝีมือ" มาช่วยด้วย นั่นคือ "แฟนคุณชอร์ค" ครับ กระผมต้องขอบคุณเป็นอย่างมากที่ได้เสียสละเวลามาถ่ายภาพ
ซึ่งแฟนคุณชอร์คช่วยนักศึกษา มจพ. ระยองรุ่นที่ 4 แทบจะทุก ๆ ครั้งที่มีงานสำคัญ ๆ นับตั้งแต่การจัดสรรค์หาทัวร์เพื่อไปดูงานต่างประเทศรวมทั้งเส้นทางท่องเที่ยวในยุโรปที่น่าสนใจเมื่อครั้งนั้น
ความสนุำำกสนานได้เริ่มขึ้นครับ โดยมี "คุณโอ" เป็นโต้โผหรือแม่งานครั้งนี้ ความคิดออกมาจาก "พี่เล็ก" ครับ
เกมส์มีชื่อว่า "หน้าบอดหลังใบ้" หมายความว่าอย่างไร เมื่อเข้าแถวตอนนับตั้งแต่คนแรกไปจนถึงก่อนคนสุดท้ายต้องปิดตา และคนหลังสุดไม่ต้องปิดตา..แต่..ต้องเป็นใบ้หรือห้ามพูด ใด ๆ
โดยตกลงกันว่า..คนให้สัญญานจะเป็นคนหลังสุดเพราะมองเห็นสถานการณ์เพียงคนเดียวของเป้าหมาย
ฉะนั้น ถ้าจะรู้ว่าให้ เดินต่อไป, ให้หยุด, ให้เลี้ยวซ้าย, เลี้ยวขวา, ก้ม, นั่ง และอื่น ๆ จะใช้สัญญลักษณ์จากมือที่แตะบอกคนที่อยู่หน้าเราทราบได้อย่างไร (เพราะคนหลังสุดห้ามพูดไง)
ต้องไปตกลงและรู้รหัสกันเอง แต่ละกลุ่มก็จะไม่เหมือนกันในเรื่องสัญญลักษณ์ที่ส่งให้กัน เนื่องจากคนละห้วงเวลา ถามกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องถามกันอยู่แล้ว เพราะคิดเองกันเป็น
ความต่อเนื่องของงานอยู่ที่ "คุณโอ" ครับ พูดตลอดเลย เสียงแหบเสียงแห้ง นี่ขนาดไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรนะ
มีพี่เมศ, พี่เล็ก, พี่ชิน เข้ามาช่วยเสริมบ้างก็เพลาไป เพราะมีนักศึกษารุ่นน้องหลายกลุ่มที่เข้ามาในซุ้มของรุ่นพี่ จึงต้องแบ่งเบาภาระกันไป
เมื่อตกลงสัญญลักษณ์กันได้แล้วก็เริ่มเล่นเกมส์กันไปล่ะครับพี่น้อง ในภาพนั้นดูแสนจะธรรมดาเสียเหลือเกิน ..แต่..มีอะไร ๆ แปลกปลอมเข้ามาแทรกอีกสิท่าน
สัญญาณรบกวน..ครับ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อสมาชิกในกลุ่มเริ่มเดินเกมส์ไปสักพักเพื่อหาเป้าหมาย สัญญาณรบกวนจากรุ่นพี่ก็เข้ามาแทรก
โดยรุ่นพี่เข้าไปสกิดคนใดก็ได้ ทำให้มีสัญญาณเข้ามาที่คนรับถึงสองอย่าง และมีหลายคนเ้ข้าไปส่งสัญญาณนี่สิ
คนรับสัญญาณจึง "งง" กับสัญญาณที่เข้ามา "เป็นสัญญาณไหนกันแน่" คนที่ส่งสัญญาณต้องตัดสินใจเลือกสัญญาณเดียวเื่พื่อส่งต่อ นั่นล่ะครับความมันส์จึงเกิดขึ้น
รุ่นพี่ก็เหลือร้าย...กวนกันได้ คนที่ดูก็ "หัวเราะ" กันไป ได้อรรถรสของการเล่นเกมส์นี้มาก ได้แนวคิดอะไรกับเกมส์ที่ว่าไม่น่าจะมีอะไร
คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่อยู่ด้านหลัง เมื่อคนคนหน้าสุดไปไม่ถึงเป้าหมาย เนื่องจากสัญญาณรบกวนมีมากเหลือเกิน
คนท้ายสุด...ส่งสัญญาณไปเท่าไร ๆ คนอยู่หน้าสุดก็หลงทิศทางของสัญญาณที่ตกลงกันไว้ทุกที
สัญญาณ "หลอก" จะมีมากมายอะไรขนาดนี้พี่ หนูล่ะงงแล้วนะ (น้องเค้าคงจะคิดเช่นนี้แหละ)
ภาพด้านขวามือ...เป็นเหล่ารุ่นพี่ X-mie R-4 ที่คอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของเกมส์นี้ ดูกิจกรรมไป ขำกันไป รื่นรมภ์กับภาพที่ได้ปรากฎขึ้นต่อหน้า
ดังเช่นน้องสาวคนนี้ เป็นคนส่งสัญญาณให้กับด้านหน้า เมื่อเห็นรุ่นพี่เข้ามากวนเยอะ สัญญาณจากรุ่นพี่ของแต่ละคนอาจจะเป็นเศรษฐกิจไม่ดี, การเมืองไม่นิ่ง, คู่แข่งเยอะ และ ฯลฯ
ท้า่ยสุด...น้องเค้าต้องออกจากแถวเข้ามาจับมือคนที่อยู่หน้าแถวเองเลย แต่คนที่ถูกจับมือก็ไม่รู้หรอกครับว่าใครเป็นใคร
ความหมายของเกมส์นี้คือ การทำงานทุกอย่างเรามีเป้าหมายที่จะต้องสำเร็จ ถึงแม้ว่าจะตกลงหรือเผื่อทุกอย่างแล้วว่าจะต้องประชุมกันทุกเช้าว่าจะเริ่้มงานอะไรบ้าง และตอนเย็นก็จะประชุมกันอีกรอบว่าทำอะไรสำเร็จไปบ้าง
แต่..ขณะทำงานก็จะมีอุปสรรคต่าง ๆ เข้ามาแทรกอยู่เรื่อย ๆ อาจจะไม่ตลอดเวลา บางครั้งเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ เช่น การเมือง, เศรษฐกิจที่ตกต่ำ, ปัญหาประท้วงของคนงาน ,ประท้วงเีกี่ยวกับการเมือง แต่ทำให้เราเดินทางไปทำงานไม่ได้, คู่แข่ง , ราคา
สัญญาณรบกวนเหล่านี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เีพียงแต่คนที่วิเคราะห์สัญญาณรบกวนนั้น วิเคราะห์ได้ถูกต้องหรือไม่ วิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้วหาวิธีแก้ไขได้ถูกต้องอีกหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้ผู้ตัดสินใจต้องเชี่ยวชาญ
...เราลองมาชม "ภาพเคลื่อนไหว" กันครับ...
พลบค่ำ...
เป็นงานเลี้ยงฉลองงานปัจฉิมนิเทศน์และงา่นปฐมนิเทศน์ของนักศึกษาทุกกลุ่ม บางกลุ่มก็สอบสารนิพนธ์วันนี้แหละ
งานเลี้ยงค่ำคืนนั้นกลุ่มนักศึกษา X-mie ทำกลุ่ม ก็ปลดปล่อยความสุขกันเต็มที่
ส่วนนักศึกษา X-mie R-4 ; A-2 ถือโอกาสนี้แสดงความยินดีซึ่งกันและกัน เพราะถือได้ว่า "สำเร็จการศึกษา" แล้ว
ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน 2 ปี ถือได้เป็นความผูกพันธ์อีกวาระหนึ่งที่ดีต่อกันมาก
อีกกลุ่มหนึ่งนั้นเป็นนักศึกษาปริญญาโทศูนย์อมตะ หรือ X-mie A-2 ซึ่งไ้ด้ถ่ายภาพร่วมกันท่านอาจารย์ ดร.ดร.อรรถกร เก่งพล ซึ่งเป็นเป็นที่ปรึกษาของรุ่นนี้โดยตรงด้วย
ภาพด้านล่างนั้น...กรึ่ม..กันแทบทุกคนไม่เชื่อให้ดูบรรยากาศวันนั้นครับ....
ต่อไปลองชมภาพเคลื่อนไหว ณ. เวลานั้นของนักศึกษาศูนย์อมตะ รุ่น A-2 กันซักหน่อย
ทั้งนี้...เพื่อย้อนบรรยากาศในงานวันนั้นกันอีกครั้ง
ยังตอกย้ำ...บรรยากาศที่ต่อเนื่องกันอีกเหมือนเคย กระผมได้พูดคุยแบบสบาย ๆ กับกลุ่ม A-2 ไปเรื่อย ๆ แสดงถึงทุก ๆ คน "ดีอกดีใจ" ที่ประสบความสำเร็จดั่งที่ได้ตั้งใจกันไว้
ขณะนั้น..งานเลี่้ยงก็ใกล้จะเลิกแล้วแหละ จึงมีแยกย้ายออกมาพูดคุยกันนอกห้องบ้างสำหรับบางกลุ่ม คุยกันอยู่นาน จึงบันทึกบรรยากาศแบบนั้นไว้อีกครั้งหนึ่ง
...ชมภาพแบบนั้นอีกหน ขอรับ...
เมื่อเลิกจากงานแล้ว กระผม "นาย..กระดิ่งทอง" ตามไปติด ๆ กับกลุ่ม A-2 ไปไหนกันเหรอครับ ..นั่งที่ริมขอบสระน้ำ เพราะขณะนั้นเวลาซัก 23:30 น.แล้ว งานเลิกแล้วว่างั้นเถอะ
โดยบรรยากาศวันนั้น หลายท่านก็ดื่มเข้าไป "มากโข" อยู่ จึงได้เห็นภาพที่ "แปลกตา" อีกภาพหนึ่ง เป็นภาพอะไรเหรอครับ "นั่งหลับในขณะเมา" ขอรับท่าน
จวบจนเวลาเกือบ 02:00 น. "กระดิ่งทอง" ไม่ไหวครับ รู้สึกเมามาก ๆ จึงต้อง "ขอตัว" ไปนอนก่อน
สำหรับกลุ่มของ A-2 นั่งอยู่อย่างนั้นจนถึงเวลาประมาณ 04:00 น. โอ้..โฮ ดุมาก จนรุ่งเช้า 07:00 น. ก็ลุกมาทานอาหารเช้ากันทุกคน เก่ง ๆ จริง ยอมรับเลย
ในภาพนี้เป็นการบันทึกภาพร่วมของ "ก๊วน irpc" รวมทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่มาศึกษาที่ มจพ. ศูนย์ระยองด้วยกัน
เมื่อมาอยู่รวมกันแล้วก็บันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย สำหรับท่านที่จบแล้วก็ "สบายตัว" ไป ท่านที่กำลังเข้ามาเรียนใหม่ก็ต้อง "พยายาม" กันต่อไป
ครั้งนี้ผมไ้ด้พบกับ "เพื่อนเก่า" ครับ ซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยทำงานที่เีดียวกันคือ TPI หรือ irpc ในปัจจุบันนี้
และเป็นเพื่อนที่เรียนระดับปริญญาตรีด้วยกันอีกด้วย ทั้งหมดจะมีด้วยกัน 4 ท่านด้วยกัน
เริ่มจากในภาพด้านซ้ายมือคือ กระดิ่งทองกับคุณศุภชัย พระเมืองคง
โดยคุณศุภชัย พระเมืองคง เข้ามาเป็นนักศึกษาใหม่ของรุ่น X-mie R-6
ภาพต่อไป...เป็นการถ่ายภาพคู่กันระหว่างคุณศุภชัย พระเืมือง กับคุณไพศาล แก้วทันคำ หรือ คุณกุ๊ก
ซึ่่งคุณกุ๊กเป็นนักศึกษาศูนย์ระยองรุ่นที่ 2 หรือ X-mie R-2 ร่วมกับพี่วิชาญ งานนี้พี่วิชาญติดธุระส่วนตัวจึงไม่ได้มาร่วมงานด้วย ปกติพี่วิชาญจะมาร่วมงานแทบทุกครั้ง
สมัยที่เรียนระดับปริญญาตรีนั้นเราจบปี 2542 และรับปริญญาในปีเดียวกันด้วย ผมก็ัยังจำบรรยากาศวันไปรับปริญญาได้เลย ผมไปเพียงคนเดียวกับคุณศุภชัย เพียงแต่คุณศุภชัยไปกับครอบครัวพร้อมกับแฟน
ผมไปคนเดียวเพราะเห็นว่า "คนเยอะมาำก" กลัวลำบากเรื่องห้องน้ำ และอาหารการกิน วันรับปริญญาจริง...มันก็เป็นตามนั้น แต่กระผมเองก็ถ่ายภาพตั้งแต่วันซ้อมรับปริญญาแล้วแหละ จึงตัดปัญหาไป
หลายท่านยังอยู่ที่งาน แต่ก็มีหลายท่านกลับบ้านไปก่อนแล้ว เนื่องจากมีกิจส่วนตัวต้องทำ ท่านที่พาครอบครัวไปก็มี "พี่เมศ" ครับ
ต่างก็สนุกสนานกับกิจกรรมที่ได้จัดไปเมื่อวานตอนบ่าย ตกกลางคืนก็สนุกสนานกันจนดึกดื่น
ก็ถือว่า...ได้ไปพักผ่อนนอกสถานที่ไปในตัว เนื่องจากพี่เมศเองก็ำทำงานตลอดเลย ไม่ค่อยได้พาครอบครัวไปพักผ่อนที่ใดซักเท่าไหร่
สาย ๆ หน่อย "คุณวิเศษ" ก็ลงมาทานข้าวด้วยกัน ซึ่งกระผมเองลงมานั่งทานนานแล้ว ก็รับประทานไปเรื่อย ๆ
ส่วนคุณวิเศษนั้นครั้งนี้ไม่ได้พาครอบครัวมา เนื่องจากว่าครอบครัวไม่สะดวกที่จะเดินทางด้วย
ภาพต่อไปเป็นภาพ "พี่เล็ก" ครับ พี่เองนี่แหละเป็นคนหาชื่อเกมส์มาเล่น และก็มีประโยชน์มากสำหรับเกมส์ที่หามา
พี่เล็กก็เดินทางมาคนเดียวเช่นกัน ครอบครัวมีภาระกิจจึงเดินทางมาร่วมสนุกด้วยไม่ได้
พี่เล็กเองก็ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาใช้กับกิจการส่วนตัวได้อย่างลงตัวมาก
ภาพถัดไปนั้นคือ "คุณโอ" เช้านี้คงจะเสียงดีขึ้น หลังจากที่เมื่อวานเสียงหายไปเลยหลังจากเสร็จกิจกรรมรับน้องใหม่ เพราะพี่แกต้องใช้เสียงตลอดเวลา กล่องเสียง "ฟื้นตัวไ้ด้เร็ว" เนื่องจากมี "เบียร์ลีโอ" คอยหล่อเลี้ยงเส้นเสียงไว้เรื่อย ๆ นั่นเอง
เอ๊ะ...หรือว่าในกระแสเลือดมีเบียร์เป็นส่วนประกอบหนึ่งด้วยนะ..คุณโอ
ผมนั่งอยู่กับคุณเต๋าน๊าน นาน โดยคุณเต๋าก็ทานอาหารกับกระผมไปเรื่อย ๆ เนื่องจากว่าเมื่อคืนคุณเต๋าได้พักผ่อนเพียง 3 ชั่วโมงเอง
ดังนั้น...จึงออกอาการ "มึน ๆ" หรืออาการ "เมาค้าง" นั่นเอง แต่ไม่มีการ "ถอน" นะ เพราะทานหมดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ดูภายนอกแล้วยังรักษาอาการต่าง ๆ ได้ดี ดังนั้น กระผมจึงได้พูดคุยถึงเรื่อง "ภาษาและรากศัพย์ภาษา" ต่าง ๆ ของอังกฤษและไทยกันไปเรื่อย ๆ
....เราลองมาฟังกันสิ ว่าพูดคุยอะไรกันบ้างเรื่องภาษาน่ะ....
ก่อนที่จะมีการบรรยายพิเศษ ท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย พรชัยวิวัฒน์ ซึ่งสอนวิชาความปลอดภัยที่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (สอนกระผมนั่นแหละ) ได้กล่าวเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ไปพลาง ๆ ก่อน โดยท่านอาจารย์ได้เล่าถึงเรื่อง "ทวาย" ในพม่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ท่านอาจารย์สมชาย พรชัยวิวัฒน์ เป็นผู้สำรวจโครงการนี้เมื่อปี 2548 เพื่อหาว่าประเทศใดเหมาะสมที่จะก่อสร้างโครงการอุตสาหกรรมใหญ่ในเอเซียได้ มีประเทศ ลาว, พม่า, กัมพูชา, ไทย, ฯ
ท้ายสุดมาลงตัวที่ประเทศพม่า เนื่องจากสะดวก ,ติดทะเล ,การขนส่งมาถึงได้ง่าย ,ปัญหาการเมืองมีน้อยและมีแนวโน้มสงบ ,รัฐบาลตั้งมั่นและให้สัญญากับกลุ่มประเทศที่จะมาตั้งโรงงานผลิตในพม่าว่า...จะพัฒนาประเทศ
โครงการที่จำได้คร่าว ๆ ประเทศพม่าได้เรื่องสถานที่ตั้งโรงงานต่าง ๆ ประเทศไทยได้เรื่องการขนส่ง ซึ่งการขนส่งนั้นจะทำถนนจากพม่าผ่านจังหวัดกาญจนบุรีเข้ามาถึงแหลมฉบัง ส่วนเวียดนามได้เรื่องข้าว อื่น ๆ จำไม่ค่อยได้..ขอรับ
เมื่อถึงเวลา 09:00 น. ท่านรองศาสตราจารย์ ดร.สุธี อักษรกิติ์ ได้ให้เกีียรติมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับ "ต้องเตรียมตัวอย่างไรเมื่อ AEC มาถึงประเทศไทย"
ครั้งก่อนท่านอาจารย์ใ้ห้เกียรติมาเล่า "เรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แหละน้ำท่วม" ให้ฟัง ติดตามได้ตามลิ้งท์ด้านล่างนี้ http://gradingthong.blogspot.com/search/label/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%20%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%B51%20%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%B52
ส่วนหนึ่งท่านอาจารย์ได้เล่าว่า เครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก ให้ฟังว่า...เครื่องมือนี้ท่านอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นผู้คิดค้นขึ้น
สำคัญคือ "เครื่องมือนี้สามารถที่จะตั้งค่าเท่าไรก็ได้เมื่อจะทำการวัดค่าความชื้นของข้าว และตั้งได้ทุกขณะ"
...ผมกำลังคิดว่าพ่อค้าที่รับซื้อข้าวกำลังทำอะไรกับข้าวของชาวนา,,ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินต่อไป
ท่านอาจารย์แนะนำว่า ทำไม อบต.ไม่ซื้อไว้ประจำตำบลเลย ราคาเครื่องก็ไม่แพง เป็นของคนไทยด้วย ชาวนาจะได้กำหนดความชื้นของตนเองได้เพราะเครื่องมืออยู่ใกล้ หยิบยืมได้สะดวก สอนการตั้งค่าวัดความชื้นที่เครื่องให้กับชาวนาเลย ง่าย ๆ ...แล้วทำอะไรอยู่
(ผู้คิดค้นคือ ศาสตราจารย์โมไนย ไกรฤกษ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และสำนักวิจัยการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ)
รายละเอียดติดตามได้ตามลิ้งท์นี้ครับ http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.thainewsland.com/inline/thainewsland/th/892b5a669accfd0c25a6d29b570c6b08.jpg&imgrefurl=http://www.thainewsland.com/a26744-%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%258A-%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2594-%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A5-%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AF-%25E0%25B8%25A7-%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5-%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2582-%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5-%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581&usg=__yMyrN4UWT8BXxMFLXmho_QbUmvU=&h=197&w=250&sz=11&hl=en&start=11&zoom=1&tbnid=TJFxTjPUwm3NZM:&tbnh=87&tbnw=111&ei=c7tpUKu0FMbNrQf02YGICg&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%2B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587%26hl%3Den%26gbv%3D2%26rlz%3D1R2NCLR_enTH499%26tbm%3Disch&itbs=1
เรามาฟังในรายละเอียด ซึ่งมีอยู่ 4 ตอนด้วยกัน
...เริ่มกันด้วยตอนที่หนึ่งกันครับ...
...ต่อกันด้วยตอนที่สอง ครับ...
...ตามมาติด ๆ ด้วยตอนที่สาม ครับ...
...ตอนสุดท้ายเลยละกัน...
ฟังการบรรยายของท่านอาจารย์สุธี อักษรกิติ์ จบแล้วก็จะแยกกับกลับภูมิลำเนาแล้วละคราวนี้ สำหรับชาว X-mie R-4 (ส่วนใหญ่) ก็ถือได้ว่าจะ "บริบูรณ์" สำหรับการศึกษาครั้งนี้แล้ว
นาย..กระดิ่งทอง..ก็อยากจะเล่าความรู้สึกอะไรบ้างบางอย่างที่ "สู้" มาทั้งสองปีการศึกษา
กว่าจะจบการศึกษาครั้งนี้ได้ และในระยะเวลาสองปีนั้นมีอะไร "แอบแฝง" อยู่บ้าง
..ลองฟังกันครับ..
จากนั้นลองมาฟัง "คุณโอ" บ้างละกัน หลังจากที่เสียงแหบเสียงแห้งไปเมื่อวันเสาร์ วันนี้อาการดีขึ้นบ้างแล้วหรือยัง
ตอนเช้าที่ออกมาทานข้าวเช้า ยัง "สลึม สลือ" อยู่เลย คงหนักน่ะเมื่อคืน
และความรู้สึกในใจลึก ๆ นั้นเป็นอย่างไรกันบ้างที่ "สู้ฟันฝ่า" มาด้วยกันทั้งสองปี วันนี้มีอะไรจะเล่าบ้าง
...ฟังกันอีกครั้ง..ขอรับ...
ท้ายสุดนั้นเป็น "คุณเบิร์ด" ครับ คนนี้ "เงียบ ๆ ขรึม ๆ" แต่มีอะไร ๆ ลึก ๆ ที่ดีมาก สมัยเรียนก็คอยช่วยเหลือเพื่อน ๆ อย่างมากมาย
สมัยที่เรียนนั้นหลังคารถพี่เค้า "สีด่าง" (ลอกด้วย) ผมถามว่า "จะทำสีรถเมื่อไร" พี่แกตอบว่า "เรียนจบก่อน" ไม่ทราบปัจจุบันทำสีรถแล้วหรือยังก็ไม่ทราบ
...มีอะไรจะเล่าบ้างก็ลองฟังกันนะ...
...ต่อไปเป็น "ภาพวีดิทัศน์รวม" ของกิจกรรมที่เกิดขึ้นครับ...
...ด้านล่างนี้เป็นภาพที่รวบรวมไว้ชม..ขอรับ
...ขอให้มีความสุขกับการชม..นะครับ จาก...gradingthong.blogspot.com
และครั้งนี้เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องบอกว่า "ภาคภูมิใจ" อีกครั้งหนึ่งในชีวิตกับการร่วมยินดีสำหรับการ "จบการศึกษา" ถึงแม้จะมีบางท่าน "ติดขัด" อะไร ๆ บางประการ ..แต่..ก็ขอเป็นกำลังที่จะให้จบด้วยกันครับ
หนึ่งในนั้นที่พี่ท่านหนึ่งที่ "มารับ" ตั้งแต่วันเข้าเรียนเมื่อสองปีก่อน และ "มาส่ง" เมื่อวันที่กระผมหรือเพื่อนนักศึกษาที่เรียนจบ นั่นคือ "พี่จงกล" ครับ ...กระผมขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ...
พี่จงกล..นั้น แท้จริงท่านเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี" ชื่อคือ อ.จงกล สุภารัตน์ ลิงท์ของมหาวิทยาลัยตามนี้ครับ http://www.rmutt.ac.th/
ท่านมีตำแหน่งถึง "หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ" ลิงท์ตามนี้เลย http://web.en.rmutt.ac.th/iee/
ในภาพนี้..กำลังสนทนาอยู่กับ "คุณใหม่" (คนนั่ง) ซึ่งก็ถือว่าเป็นอาจารย์ผมอีกคนละกัน มีความเก่งฉกาจใกล้เคียงกัน
คุณใหม่ไม่ได้เป็นอาจารย์สอนหรอก ทำงานเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ความรู้ความสามารถ "ระดับพระกาฬ" ถ้าปัจจุบันจะเรียก "ขั้นเทพ"
ภาพต่อไปนั้นเป็นเพื่อน ๆ A-2 ที่จบการศึกษารุ่นเดียวกัน ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกับเหตุการณ์วันนี้ หลังจากที่ "ร่วมทุกข์..ร่วมสุข" กันมาร่วมระยะเวลาสองปีเช่นกัน
แน่นอนว่า..ความประทับใจที่ผ่านมา "ลืมยาก" สำหรับ A-2 นั้นที่กระผมสังเกตุ อยู่แบบ "ฉันท์พี่ฉันท์น้อง" จริง ๆ
อีกด้านขวามือ...เป็นบันทึกภาพแห่งความทรงจำของกลุ่มนักศึกษา A-2 ร่วมกับท่านอาจารย์ ดร.ดร.อรรถกร เก่งพล ท่านเป็นที่ปรึกษาของรุ่น A-2 ด้วย
เมื่อครั้งไปศึกษาดูงานที่แถบประเทศยุโรป ท่านอาจารย์อรรถกร เก่งพล ได้เป็นผู้นำเที่ยวให้กับกลุ่มเราด้วย และท่านก็ยังเล่าเรื่องต่าง ๆ ของสถานที่นั้นให้ฟังแบบไม่หวงความรู้ เสมือนกับหัวหน้าทัวร์คนหนึ่งเลย
ลิงท์ท่องเที่ยวยุโรปดูได้ตามนี้ครับ http://gradingthong.blogspot.com/search/label/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B%2022-28%20%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%202554%20%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C
ต่อไป...ขอถ่ายภาพเดี่ยวเพื่อความเป็นสิริมงคลหน่อย หรือเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ
ในภาพนี้คือ "คุณสุทัศน์" นักศึกษาของ "อมตะ รุ่น A-2" ซึ่งคุณสุทัศน์เป็นหนึ่งที่ทำสารนิพนธ์กับท่านอาจารย์สมเกียรติ จงประสิทธิ์พร ร่วมกับกระผมและคุณวิเศษ โกรัตนะ
ช่วงที่ทำสาระนิพนธ์นั้นทั้งสามหน่อ..ก็ไป ๆ มา ๆ เพื่อที่จะแก้ไขสารนิพนธ์กันตั้งหลายรอบครับ "หืดขึ้นคอ" ก็รู้สึกได้ในคราวนี้แหละครับ
ภาพต่อไปเป็น "น้อง..อ๊าร์ต" ครับ เพิ่งจบ ป.ตรี มาหมาด ๆ เลย แล้วเข้าศึกษาต่อ ป.โท แบบต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ขาดตอน
ดังนั้น..ความคิดความอ่านจึงยังสดอยู่ แหละน้องเค้าเองเป็น "ศิษย์เก่า มจพ." เมื่อศึกษาต่อสายเดิมจึงไม่ต้องปรับปรุงอะไรมากมาย เพราะคุ้นเคยอะไร ๆ อยู่บ้าง
น้องอาร์ต ..ถือได้ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงคนหนึ่งที่ผมพบเจอ มีอะไร ๆ ดี ๆ ที่แฝงอยู่ในตัวมากมาย
ภาพต่อไปคือ "พี่..ชิน" ครับ พี่ท่านเรียนนับครั้งนี้ได้ "ใบปริญญาโท รวมแล้ว 2 ใบ" ด้วยกันครับ ใบแรกเป็นเรื่อง "การบริหารจัดการ" จากมหาวิทยาลัยบูรพา ส่วนใบที่สองนี้เป็นเรื่อง "การจัดการอุตสาหกรรม" ครับ จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
จากความรู้ที่ได้ร่ำเรียนหนนี้ พี่ท่านสามารถนำไปใช้กับงานไ้ด้มากมาย และตรงกับสายงานมาก และท่านยังมีความคิดความอ่านที่ "ปราชญ์เปรื่อง" มาก ผมยังยอมรับในความคิดของท่านเลย
ซึ่งพี่ท่านไ้ด้ทุนคืนจากใบแรกไปแล้ว เพราะมีธุรกิจส่วนตัวที่ถอนทุนคืนได้เรียบร้อยแล้วครับท่าน
ช่วงบ่าย..เป็นงาน "รับน้อง" ของ "รุ่นพี่" ของวันที่ 14 กรกฏาคม 2555 ที่จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งหมดมี 8 ซุ้มด้วยกัน
ซุ้มของรุ่นพี่นักศึกษาระยอง R-4 เป็นซุ้มที่ 5 ครับท่าน
งานสำคัญ ๆ แบบนี้ เราไ้ด้ "ช่างภาพฝีมือ" มาช่วยด้วย นั่นคือ "แฟนคุณชอร์ค" ครับ กระผมต้องขอบคุณเป็นอย่างมากที่ได้เสียสละเวลามาถ่ายภาพ
ซึ่งแฟนคุณชอร์คช่วยนักศึกษา มจพ. ระยองรุ่นที่ 4 แทบจะทุก ๆ ครั้งที่มีงานสำคัญ ๆ นับตั้งแต่การจัดสรรค์หาทัวร์เพื่อไปดูงานต่างประเทศรวมทั้งเส้นทางท่องเที่ยวในยุโรปที่น่าสนใจเมื่อครั้งนั้น
ความสนุำำกสนานได้เริ่มขึ้นครับ โดยมี "คุณโอ" เป็นโต้โผหรือแม่งานครั้งนี้ ความคิดออกมาจาก "พี่เล็ก" ครับ
เกมส์มีชื่อว่า "หน้าบอดหลังใบ้" หมายความว่าอย่างไร เมื่อเข้าแถวตอนนับตั้งแต่คนแรกไปจนถึงก่อนคนสุดท้ายต้องปิดตา และคนหลังสุดไม่ต้องปิดตา..แต่..ต้องเป็นใบ้หรือห้ามพูด ใด ๆ
โดยตกลงกันว่า..คนให้สัญญานจะเป็นคนหลังสุดเพราะมองเห็นสถานการณ์เพียงคนเดียวของเป้าหมาย
ฉะนั้น ถ้าจะรู้ว่าให้ เดินต่อไป, ให้หยุด, ให้เลี้ยวซ้าย, เลี้ยวขวา, ก้ม, นั่ง และอื่น ๆ จะใช้สัญญลักษณ์จากมือที่แตะบอกคนที่อยู่หน้าเราทราบได้อย่างไร (เพราะคนหลังสุดห้ามพูดไง)
ต้องไปตกลงและรู้รหัสกันเอง แต่ละกลุ่มก็จะไม่เหมือนกันในเรื่องสัญญลักษณ์ที่ส่งให้กัน เนื่องจากคนละห้วงเวลา ถามกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องถามกันอยู่แล้ว เพราะคิดเองกันเป็น
ความต่อเนื่องของงานอยู่ที่ "คุณโอ" ครับ พูดตลอดเลย เสียงแหบเสียงแห้ง นี่ขนาดไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรนะ
มีพี่เมศ, พี่เล็ก, พี่ชิน เข้ามาช่วยเสริมบ้างก็เพลาไป เพราะมีนักศึกษารุ่นน้องหลายกลุ่มที่เข้ามาในซุ้มของรุ่นพี่ จึงต้องแบ่งเบาภาระกันไป
เริ่มตั้งแต่ ชื่อกลุ่มอะไร, คำขวัญประจำกลุ่มว่าไง, ท่าเต้นประจำกลุ่มคือท่าไหน, และแนะนำชื่อพร้อมทำงานที่ใดให้ทราบ
เมื่อตกลงสัญญลักษณ์กันได้แล้วก็เริ่มเล่นเกมส์กันไปล่ะครับพี่น้อง ในภาพนั้นดูแสนจะธรรมดาเสียเหลือเกิน ..แต่..มีอะไร ๆ แปลกปลอมเข้ามาแทรกอีกสิท่าน
สัญญาณรบกวน..ครับ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อสมาชิกในกลุ่มเริ่มเดินเกมส์ไปสักพักเพื่อหาเป้าหมาย สัญญาณรบกวนจากรุ่นพี่ก็เข้ามาแทรก
โดยรุ่นพี่เข้าไปสกิดคนใดก็ได้ ทำให้มีสัญญาณเข้ามาที่คนรับถึงสองอย่าง และมีหลายคนเ้ข้าไปส่งสัญญาณนี่สิ
คนรับสัญญาณจึง "งง" กับสัญญาณที่เข้ามา "เป็นสัญญาณไหนกันแน่" คนที่ส่งสัญญาณต้องตัดสินใจเลือกสัญญาณเดียวเื่พื่อส่งต่อ นั่นล่ะครับความมันส์จึงเกิดขึ้น
รุ่นพี่ก็เหลือร้าย...กวนกันได้ คนที่ดูก็ "หัวเราะ" กันไป ได้อรรถรสของการเล่นเกมส์นี้มาก ได้แนวคิดอะไรกับเกมส์ที่ว่าไม่น่าจะมีอะไร
คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่อยู่ด้านหลัง เมื่อคนคนหน้าสุดไปไม่ถึงเป้าหมาย เนื่องจากสัญญาณรบกวนมีมากเหลือเกิน
คนท้ายสุด...ส่งสัญญาณไปเท่าไร ๆ คนอยู่หน้าสุดก็หลงทิศทางของสัญญาณที่ตกลงกันไว้ทุกที
สัญญาณ "หลอก" จะมีมากมายอะไรขนาดนี้พี่ หนูล่ะงงแล้วนะ (น้องเค้าคงจะคิดเช่นนี้แหละ)
ภาพด้านขวามือ...เป็นเหล่ารุ่นพี่ X-mie R-4 ที่คอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของเกมส์นี้ ดูกิจกรรมไป ขำกันไป รื่นรมภ์กับภาพที่ได้ปรากฎขึ้นต่อหน้า
วันปัจฉิมนิเทศน์ นักศึกษา X-mie R-4 มีบางท่านติดภารกิจสำคัญจึงไปร่วมงานไม่ครบ ไม่เป็นไรครับสิ่งใดสำคัญกว่าก็จัดลำดับให้ได้ละกัน (นี่เป็นการบริหารงานอย่างหนึ่ง)
ดังเช่นน้องสาวคนนี้ เป็นคนส่งสัญญาณให้กับด้านหน้า เมื่อเห็นรุ่นพี่เข้ามากวนเยอะ สัญญาณจากรุ่นพี่ของแต่ละคนอาจจะเป็นเศรษฐกิจไม่ดี, การเมืองไม่นิ่ง, คู่แข่งเยอะ และ ฯลฯ
น้องเค้าก็ส่งสัญญาณไป ขำไป จะทำไงดีล่ะเป้าหมายก็ออกห่างไปเรื่อย ๆ บอกซ้ายกลับไปไหนก็ไม่รู้แล้ว
ท้า่ยสุด...น้องเค้าต้องออกจากแถวเข้ามาจับมือคนที่อยู่หน้าแถวเองเลย แต่คนที่ถูกจับมือก็ไม่รู้หรอกครับว่าใครเป็นใคร
ยิ่งเนิ่นนานไป ความวุ่นวายก็ยิ่งเกิดขึ้น ความมันส์ก็ยิ่งมีต่อเนื่อง พิจารณาจากภาพคงเดาว่า ดูสิคนที่ถูกดึงจะเชื่อใครมากกว่ากัน
ความหมายของเกมส์นี้คือ การทำงานทุกอย่างเรามีเป้าหมายที่จะต้องสำเร็จ ถึงแม้ว่าจะตกลงหรือเผื่อทุกอย่างแล้วว่าจะต้องประชุมกันทุกเช้าว่าจะเริ่้มงานอะไรบ้าง และตอนเย็นก็จะประชุมกันอีกรอบว่าทำอะไรสำเร็จไปบ้าง
สัญญาณรบกวนเหล่านี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เีพียงแต่คนที่วิเคราะห์สัญญาณรบกวนนั้น วิเคราะห์ได้ถูกต้องหรือไม่ วิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้วหาวิธีแก้ไขได้ถูกต้องอีกหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้ผู้ตัดสินใจต้องเชี่ยวชาญ
...เราลองมาชม "ภาพเคลื่อนไหว" กันครับ...
พลบค่ำ...
เป็นงานเลี้ยงฉลองงานปัจฉิมนิเทศน์และงา่นปฐมนิเทศน์ของนักศึกษาทุกกลุ่ม บางกลุ่มก็สอบสารนิพนธ์วันนี้แหละ
งานเลี้ยงค่ำคืนนั้นกลุ่มนักศึกษา X-mie ทำกลุ่ม ก็ปลดปล่อยความสุขกันเต็มที่
ส่วนนักศึกษา X-mie R-4 ; A-2 ถือโอกาสนี้แสดงความยินดีซึ่งกันและกัน เพราะถือได้ว่า "สำเร็จการศึกษา" แล้ว
ในภาพนี้เป็นนักศึกษาปริญญาโทศูนย์ระยอง หรือ X-mie R-4 ต่างได้ร่วมแสดงความยินดีกับทุก ๆ ท่านที่ประสบความสำเร็จกับตามเป้าหมาย
ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน 2 ปี ถือได้เป็นความผูกพันธ์อีกวาระหนึ่งที่ดีต่อกันมาก
อีกกลุ่มหนึ่งนั้นเป็นนักศึกษาปริญญาโทศูนย์อมตะ หรือ X-mie A-2 ซึ่งไ้ด้ถ่ายภาพร่วมกันท่านอาจารย์ ดร.ดร.อรรถกร เก่งพล ซึ่งเป็นเป็นที่ปรึกษาของรุ่นนี้โดยตรงด้วย
ภาพด้านล่างนั้น...กรึ่ม..กันแทบทุกคนไม่เชื่อให้ดูบรรยากาศวันนั้นครับ....
ต่อไปลองชมภาพเคลื่อนไหว ณ. เวลานั้นของนักศึกษาศูนย์อมตะ รุ่น A-2 กันซักหน่อย
ทั้งนี้...เพื่อย้อนบรรยากาศในงานวันนั้นกันอีกครั้ง
ยังตอกย้ำ...บรรยากาศที่ต่อเนื่องกันอีกเหมือนเคย กระผมได้พูดคุยแบบสบาย ๆ กับกลุ่ม A-2 ไปเรื่อย ๆ แสดงถึงทุก ๆ คน "ดีอกดีใจ" ที่ประสบความสำเร็จดั่งที่ได้ตั้งใจกันไว้
ขณะนั้น..งานเลี่้ยงก็ใกล้จะเลิกแล้วแหละ จึงมีแยกย้ายออกมาพูดคุยกันนอกห้องบ้างสำหรับบางกลุ่ม คุยกันอยู่นาน จึงบันทึกบรรยากาศแบบนั้นไว้อีกครั้งหนึ่ง
...ชมภาพแบบนั้นอีกหน ขอรับ...
เมื่อเลิกจากงานแล้ว กระผม "นาย..กระดิ่งทอง" ตามไปติด ๆ กับกลุ่ม A-2 ไปไหนกันเหรอครับ ..นั่งที่ริมขอบสระน้ำ เพราะขณะนั้นเวลาซัก 23:30 น.แล้ว งานเลิกแล้วว่างั้นเถอะ
จึงต้องไปนั่งดื่มต่อกันที่ขอบสระน้ำของโรงแรม ก็ได้พูดคุยกันไปเรื่อย และยังมีเสียงเพลง ซึ่งบรรเลงฝีมือโดย "คุณเต๋า" เจ้าเก่า
โดยบรรยากาศวันนั้น หลายท่านก็ดื่มเข้าไป "มากโข" อยู่ จึงได้เห็นภาพที่ "แปลกตา" อีกภาพหนึ่ง เป็นภาพอะไรเหรอครับ "นั่งหลับในขณะเมา" ขอรับท่าน
จวบจนเวลาเกือบ 02:00 น. "กระดิ่งทอง" ไม่ไหวครับ รู้สึกเมามาก ๆ จึงต้อง "ขอตัว" ไปนอนก่อน
สำหรับกลุ่มของ A-2 นั่งอยู่อย่างนั้นจนถึงเวลาประมาณ 04:00 น. โอ้..โฮ ดุมาก จนรุ่งเช้า 07:00 น. ก็ลุกมาทานอาหารเช้ากันทุกคน เก่ง ๆ จริง ยอมรับเลย
ในภาพนี้เป็นการบันทึกภาพร่วมของ "ก๊วน irpc" รวมทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่มาศึกษาที่ มจพ. ศูนย์ระยองด้วยกัน
เมื่อมาอยู่รวมกันแล้วก็บันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย สำหรับท่านที่จบแล้วก็ "สบายตัว" ไป ท่านที่กำลังเข้ามาเรียนใหม่ก็ต้อง "พยายาม" กันต่อไป
ครั้งนี้ผมไ้ด้พบกับ "เพื่อนเก่า" ครับ ซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยทำงานที่เีดียวกันคือ TPI หรือ irpc ในปัจจุบันนี้
และเป็นเพื่อนที่เรียนระดับปริญญาตรีด้วยกันอีกด้วย ทั้งหมดจะมีด้วยกัน 4 ท่านด้วยกัน
เริ่มจากในภาพด้านซ้ายมือคือ กระดิ่งทองกับคุณศุภชัย พระเมืองคง
โดยคุณศุภชัย พระเมืองคง เข้ามาเป็นนักศึกษาใหม่ของรุ่น X-mie R-6
ภาพต่อไป...เป็นการถ่ายภาพคู่กันระหว่างคุณศุภชัย พระเืมือง กับคุณไพศาล แก้วทันคำ หรือ คุณกุ๊ก
ซึ่่งคุณกุ๊กเป็นนักศึกษาศูนย์ระยองรุ่นที่ 2 หรือ X-mie R-2 ร่วมกับพี่วิชาญ งานนี้พี่วิชาญติดธุระส่วนตัวจึงไม่ได้มาร่วมงานด้วย ปกติพี่วิชาญจะมาร่วมงานแทบทุกครั้ง
สมัยที่เรียนระดับปริญญาตรีนั้นเราจบปี 2542 และรับปริญญาในปีเดียวกันด้วย ผมก็ัยังจำบรรยากาศวันไปรับปริญญาได้เลย ผมไปเพียงคนเดียวกับคุณศุภชัย เพียงแต่คุณศุภชัยไปกับครอบครัวพร้อมกับแฟน
ผมไปคนเดียวเพราะเห็นว่า "คนเยอะมาำก" กลัวลำบากเรื่องห้องน้ำ และอาหารการกิน วันรับปริญญาจริง...มันก็เป็นตามนั้น แต่กระผมเองก็ถ่ายภาพตั้งแต่วันซ้อมรับปริญญาแล้วแหละ จึงตัดปัญหาไป
รุ่งเช้าของวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฏาคม 2555
หลายท่านยังอยู่ที่งาน แต่ก็มีหลายท่านกลับบ้านไปก่อนแล้ว เนื่องจากมีกิจส่วนตัวต้องทำ ท่านที่พาครอบครัวไปก็มี "พี่เมศ" ครับ
ต่างก็สนุกสนานกับกิจกรรมที่ได้จัดไปเมื่อวานตอนบ่าย ตกกลางคืนก็สนุกสนานกันจนดึกดื่น
ก็ถือว่า...ได้ไปพักผ่อนนอกสถานที่ไปในตัว เนื่องจากพี่เมศเองก็ำทำงานตลอดเลย ไม่ค่อยได้พาครอบครัวไปพักผ่อนที่ใดซักเท่าไหร่
สาย ๆ หน่อย "คุณวิเศษ" ก็ลงมาทานข้าวด้วยกัน ซึ่งกระผมเองลงมานั่งทานนานแล้ว ก็รับประทานไปเรื่อย ๆ
ส่วนคุณวิเศษนั้นครั้งนี้ไม่ได้พาครอบครัวมา เนื่องจากว่าครอบครัวไม่สะดวกที่จะเดินทางด้วย
งานนี้เลยบรรทุกเอาเพื่อนมาด้วยละกันงั้น ขับรถมาคนเดียวก็เหงาเนอะ
ภาพต่อไปเป็นภาพ "พี่เล็ก" ครับ พี่เองนี่แหละเป็นคนหาชื่อเกมส์มาเล่น และก็มีประโยชน์มากสำหรับเกมส์ที่หามา
พี่เล็กก็เดินทางมาคนเดียวเช่นกัน ครอบครัวมีภาระกิจจึงเดินทางมาร่วมสนุกด้วยไม่ได้
พี่เล็กเองก็ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาใช้กับกิจการส่วนตัวได้อย่างลงตัวมาก
ภาพถัดไปนั้นคือ "คุณโอ" เช้านี้คงจะเสียงดีขึ้น หลังจากที่เมื่อวานเสียงหายไปเลยหลังจากเสร็จกิจกรรมรับน้องใหม่ เพราะพี่แกต้องใช้เสียงตลอดเวลา กล่องเสียง "ฟื้นตัวไ้ด้เร็ว" เนื่องจากมี "เบียร์ลีโอ" คอยหล่อเลี้ยงเส้นเสียงไว้เรื่อย ๆ นั่นเอง
เอ๊ะ...หรือว่าในกระแสเลือดมีเบียร์เป็นส่วนประกอบหนึ่งด้วยนะ..คุณโอ
ผมนั่งอยู่กับคุณเต๋าน๊าน นาน โดยคุณเต๋าก็ทานอาหารกับกระผมไปเรื่อย ๆ เนื่องจากว่าเมื่อคืนคุณเต๋าได้พักผ่อนเพียง 3 ชั่วโมงเอง
ดังนั้น...จึงออกอาการ "มึน ๆ" หรืออาการ "เมาค้าง" นั่นเอง แต่ไม่มีการ "ถอน" นะ เพราะทานหมดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ดูภายนอกแล้วยังรักษาอาการต่าง ๆ ได้ดี ดังนั้น กระผมจึงได้พูดคุยถึงเรื่อง "ภาษาและรากศัพย์ภาษา" ต่าง ๆ ของอังกฤษและไทยกันไปเรื่อย ๆ
....เราลองมาฟังกันสิ ว่าพูดคุยอะไรกันบ้างเรื่องภาษาน่ะ....
ก่อนที่จะมีการบรรยายพิเศษ ท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย พรชัยวิวัฒน์ ซึ่งสอนวิชาความปลอดภัยที่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (สอนกระผมนั่นแหละ) ได้กล่าวเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ไปพลาง ๆ ก่อน โดยท่านอาจารย์ได้เล่าถึงเรื่อง "ทวาย" ในพม่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ท่านอาจารย์สมชาย พรชัยวิวัฒน์ เป็นผู้สำรวจโครงการนี้เมื่อปี 2548 เพื่อหาว่าประเทศใดเหมาะสมที่จะก่อสร้างโครงการอุตสาหกรรมใหญ่ในเอเซียได้ มีประเทศ ลาว, พม่า, กัมพูชา, ไทย, ฯ
ท้ายสุดมาลงตัวที่ประเทศพม่า เนื่องจากสะดวก ,ติดทะเล ,การขนส่งมาถึงได้ง่าย ,ปัญหาการเมืองมีน้อยและมีแนวโน้มสงบ ,รัฐบาลตั้งมั่นและให้สัญญากับกลุ่มประเทศที่จะมาตั้งโรงงานผลิตในพม่าว่า...จะพัฒนาประเทศ
โครงการที่จำได้คร่าว ๆ ประเทศพม่าได้เรื่องสถานที่ตั้งโรงงานต่าง ๆ ประเทศไทยได้เรื่องการขนส่ง ซึ่งการขนส่งนั้นจะทำถนนจากพม่าผ่านจังหวัดกาญจนบุรีเข้ามาถึงแหลมฉบัง ส่วนเวียดนามได้เรื่องข้าว อื่น ๆ จำไม่ค่อยได้..ขอรับ
เมื่อถึงเวลา 09:00 น. ท่านรองศาสตราจารย์ ดร.สุธี อักษรกิติ์ ได้ให้เกีียรติมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับ "ต้องเตรียมตัวอย่างไรเมื่อ AEC มาถึงประเทศไทย"
ครั้งก่อนท่านอาจารย์ใ้ห้เกียรติมาเล่า "เรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แหละน้ำท่วม" ให้ฟัง ติดตามได้ตามลิ้งท์ด้านล่างนี้ http://gradingthong.blogspot.com/search/label/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%20%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%B51%20%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%B52
ส่วนหนึ่งท่านอาจารย์ได้เล่าว่า เครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก ให้ฟังว่า...เครื่องมือนี้ท่านอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นผู้คิดค้นขึ้น
สำคัญคือ "เครื่องมือนี้สามารถที่จะตั้งค่าเท่าไรก็ได้เมื่อจะทำการวัดค่าความชื้นของข้าว และตั้งได้ทุกขณะ"
...ผมกำลังคิดว่าพ่อค้าที่รับซื้อข้าวกำลังทำอะไรกับข้าวของชาวนา,,ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินต่อไป
ท่านอาจารย์แนะนำว่า ทำไม อบต.ไม่ซื้อไว้ประจำตำบลเลย ราคาเครื่องก็ไม่แพง เป็นของคนไทยด้วย ชาวนาจะได้กำหนดความชื้นของตนเองได้เพราะเครื่องมืออยู่ใกล้ หยิบยืมได้สะดวก สอนการตั้งค่าวัดความชื้นที่เครื่องให้กับชาวนาเลย ง่าย ๆ ...แล้วทำอะไรอยู่
(ผู้คิดค้นคือ ศาสตราจารย์โมไนย ไกรฤกษ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และสำนักวิจัยการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ)
รายละเอียดติดตามได้ตามลิ้งท์นี้ครับ http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.thainewsland.com/inline/thainewsland/th/892b5a669accfd0c25a6d29b570c6b08.jpg&imgrefurl=http://www.thainewsland.com/a26744-%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%258A-%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2594-%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A5-%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AF-%25E0%25B8%25A7-%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5-%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2582-%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5-%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581&usg=__yMyrN4UWT8BXxMFLXmho_QbUmvU=&h=197&w=250&sz=11&hl=en&start=11&zoom=1&tbnid=TJFxTjPUwm3NZM:&tbnh=87&tbnw=111&ei=c7tpUKu0FMbNrQf02YGICg&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581%2B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587%26hl%3Den%26gbv%3D2%26rlz%3D1R2NCLR_enTH499%26tbm%3Disch&itbs=1
เรามาฟังในรายละเอียด ซึ่งมีอยู่ 4 ตอนด้วยกัน
...เริ่มกันด้วยตอนที่หนึ่งกันครับ...
...ต่อกันด้วยตอนที่สอง ครับ...
...ตามมาติด ๆ ด้วยตอนที่สาม ครับ...
...ตอนสุดท้ายเลยละกัน...
ฟังการบรรยายของท่านอาจารย์สุธี อักษรกิติ์ จบแล้วก็จะแยกกับกลับภูมิลำเนาแล้วละคราวนี้ สำหรับชาว X-mie R-4 (ส่วนใหญ่) ก็ถือได้ว่าจะ "บริบูรณ์" สำหรับการศึกษาครั้งนี้แล้ว
นาย..กระดิ่งทอง..ก็อยากจะเล่าความรู้สึกอะไรบ้างบางอย่างที่ "สู้" มาทั้งสองปีการศึกษา
กว่าจะจบการศึกษาครั้งนี้ได้ และในระยะเวลาสองปีนั้นมีอะไร "แอบแฝง" อยู่บ้าง
..ลองฟังกันครับ..
จากนั้นลองมาฟัง "คุณโอ" บ้างละกัน หลังจากที่เสียงแหบเสียงแห้งไปเมื่อวันเสาร์ วันนี้อาการดีขึ้นบ้างแล้วหรือยัง
ตอนเช้าที่ออกมาทานข้าวเช้า ยัง "สลึม สลือ" อยู่เลย คงหนักน่ะเมื่อคืน
และความรู้สึกในใจลึก ๆ นั้นเป็นอย่างไรกันบ้างที่ "สู้ฟันฝ่า" มาด้วยกันทั้งสองปี วันนี้มีอะไรจะเล่าบ้าง
...ฟังกันอีกครั้ง..ขอรับ...
ท้ายสุดนั้นเป็น "คุณเบิร์ด" ครับ คนนี้ "เงียบ ๆ ขรึม ๆ" แต่มีอะไร ๆ ลึก ๆ ที่ดีมาก สมัยเรียนก็คอยช่วยเหลือเพื่อน ๆ อย่างมากมาย
สมัยที่เรียนนั้นหลังคารถพี่เค้า "สีด่าง" (ลอกด้วย) ผมถามว่า "จะทำสีรถเมื่อไร" พี่แกตอบว่า "เรียนจบก่อน" ไม่ทราบปัจจุบันทำสีรถแล้วหรือยังก็ไม่ทราบ
...มีอะไรจะเล่าบ้างก็ลองฟังกันนะ...
...ต่อไปเป็น "ภาพวีดิทัศน์รวม" ของกิจกรรมที่เกิดขึ้นครับ...
...ด้านล่างนี้เป็นภาพที่รวบรวมไว้ชม..ขอรับ
...ขอให้มีความสุขกับการชม..นะครับ จาก...gradingthong.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น