ในรายละเอียดมีดังนี้ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ เราได้วางโครงการล่วงหน้าแล้วประมาณ 2 ปี


การเตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก
- วันที่ 15 ตุลาคม 2551 เดินทางจากจังหวัดระยองไปทำ passport ที่เซ็นทรัลบางนา โดยใช้บัตรประชาชนตัวจริง ประกอบคำร้องขอทำ passport
- ต้นเดือนธันวาคมจองตั๋วเครื่องบิน ได้ตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่นของการบินไทย 19,900 บาท และแจ้งออกตั๋วเครื่องบินพร้อมจ่ายเงิน หลังจากที่ขอวีซ่าผ่านแล้ว
- วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552 ยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานทูตญี่ปุ่น และรับวีซ่าวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 ** ในการขอวีซ่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 60 ปี ไม่ต้องเดินทางไปเอง
คนอื่นสามารถยื่นขอแทนได้ **** เอกสารประกอบคำร้องขอ และขั้นตอนการขอวีซ่าท่านสามารถเข้าไปดูได้ตามนี้เลย ****
http://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/visa1.htm
**ถ้าไปเป็นกลุ่มให้ยื่นคำร้องพร้อมกันทีเดียวเลย ในกรณีของเรา เราดำเนินการยื่นคำร้องให้พ่อแม่ และลูกด้วย
สำหรับคนที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไปไม่ต้องใช้ Statement แต่ถ้าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่ายให้บุคคลอื่นต้องใช้ด้วย (กันพลาด)

สำหรับผมใช้ Statement ของภรรยาแนบประกอบ.....อิ อิ เพราะในบัญชีของ
ข้าพเจ้ามีเงินอยู่น้อยนิด แบบว่าฝากให้เจ้าหน้าที่ธนาคารส่วนตัวเป็นผู้บริหารจัดการหมดเลย อิ อิ**
เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นี่เป็นอะไรที่จัดการยากมาก เพราะเห็นอะไร ๆ มันก็น่าซื้อไปซะหมด จึงทำให้ "เงินสด" ที่มีอยู่ในมือมีไม่ค่อยมากนัก
- หลังจากที่วีซ่าผ่านก็จองบ้านพัก
การเตรียมเสื้อผ้า สำหรับเที่ยวเมืองหนาวนั้นไม่ต้องเตรียมเยอะให้หนักกระเป๋า ชุดหนึ่งใช่ซ้ำได้หลายวัน เพราะอากาศเย็นเดินเที่ยวทั้งวันยังไม่มีเหงื่อเลย
เสื้อผ้าก็ไม่เลอะเพราะไม่มีฝุ่น..... ผมนะใส่เสื้อผ้าข้างในซ้ำกันตั้ง 3-4 วันแน่ะ.... ถ้าคนไหนชอบแฟชั่นหน่อย ก็เปลี่ยนเฉพาะเสื้อโค๊ตตัวนอก ก็พอแล้ว......ส่วนผมตัวเดิมเลย 11 วัน.....555555...
อุปกรณ์กันหนาว
- เสื้อสำหรับใส่ด้านใน สเวสเตอร์ และเสื้อโค๊ต (ยาวๆ หน่อยก็ดีนะเผื่อกันลมที่ขาด้วย เพราะไปเมืองไหนที่ลมแรง ๆ อุณภูมิไม่ต่ำมากแค่ประมาณ 8 °C แต่มีลมพัดด้วยเนี่ยหนาวสะท้านเลยหล่ะ)
****กรณีที่ไปสถานที่หนาวจัด ควรใส่เสื้อยืดพอดีตัวไว้ด้านในก่อนจะใส่เสื้อเชิ้ต หรือโปโลทับอีกทีหนึ่ง*****
- กางเกง......กางเกงก็ใช้ยีนส์นี่แหละ นอกจากไปสถานที่หิมะตก ลมแรง หรืออุณหภูมิต่ำกว่า 0 °C ควรจะเป็นผ้าร่มแบบ 2 ชั้นชนิดที่มีผ้าในจะอุ่นกว่า และกันลมได้ดี........

- ถุงมือ สำหรับประเทศญี่ปุ่นให้ไปซื้อที่ญี่ปุ่นดีกว่า ราคา 100 เยน กันหนาวได้ดีมาก เพราะที่เรานำไปจากประเทศไทยพอไปสถานที่หิมะตก มันช่วยอะไรไม่ได้เลย
เวลาซื้อคนขายบอกถุงมือชาร์มัวอย่างดีกันหิมะได้ ...หึ.หึ หลอกกันชัด ๆ คู่ละตั้ง 450 บาทแน่ะ

- หมวก และ ผ้าพันคอไหมพรม ผ้าพันคอกันไม่ให้ลม และความเย็นโดนบริเวณคอ บริเวณคอถ้าปะทะกับความเย็นนาน ๆ อาจทำให้เจ็บคอได้
- การเช่ารถยนต์ขับในต่างแดน คนที่จะสามารถเช่ารถยนต์ในต่างแดนได้นั้น "ต้อง" มีใบขับขี่สากล การท่องเที่ยวครั้งนี้ "โจ" อาสาที่จะทำใบขับขี่สากล
โดยไปขอทำใบชับขี่สากลที่ "กรมการขนส่ง" ใกล้ขนส่งสายใต้ หรือ ตลาดจตุจักร นั่นแหละ พร้อมกับ "ค่าทำเนียมในการทำใบขับขี่" อีก 500 บาท

**เราต้องศึกษากฏหมายจราจรของประเทศนั้น ๆ ด้วย และ อย่าทำผิดกฏหมายบ้านเมืองเขาใด ๆ จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นเราจะลำบาก**
ถ้ามาเยอะในกลุ่มเดียวกันก็จะให้รถตู้ หรือ ใกล้เคียง หรือแล้วแต่คนเช่าต้องการ ในครั้งนี้เราได้เช่ารถยนต์ "โตโยต้า อัลพาร์ท" เป็นรถขนาดเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี รถคันนี้มีระบบอัตโนมัติรอบคัน
ส่วนการเดินทางนั้นไม่ต้องกลัวหลงทางครับ เพราะรถยนต์มีระบบนำทางให้ หรือ GPS ขอเพียงตั้งจุดหมายให้ถูกเท่านั้น และภาษาที่ใช้ในเครื่องนั้นก็เป็นภาษาญี่ปุ่น
ฉะนั้น เราจึงต้องรบกวนให้พนักงาน "สาวสวย" ตั้งจุดหมายปลายทางให้เราครับ ระบบนำทางนั้นสัญญาณดีมาก
ถึงแม้ว่าจะวิ่งเข้าอุโมงค์ลอดเขาระยะทางยาวถึง 7 กม. สัญญาณนำทางก็ไม่มีหายครับ สมแล้วกับที่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว .........นับถือจริง ๆ ....
ข้อควรระวัง ในการเดินทางไปต่างประเทศแบบไปกันเอง (ไม่ได้ไปกับ "ทัวร์")

1. ตระเตรียมเบอร์โทรศัพท์และสถานที่ตั้งของ "สถานฑูตไทย" ของประเทศนั้น ๆ ไว้ด้วยเผื่อมีธุระต้องติดต่อจะได้ไม่เสียเวลาหา
2 เมื่ออยู่ในสถานที่นั้น ๆ ให้ตกลงกันก่อนว่า ถ้า "พลัดหลง" เราจะมายังจุดนัดพบใด
3. ถ้า "แยกย้ายกันเที่ยว" จะนัดพบกันที่จุดหมายเวลาใด
4. ก่อน "ขึ้น-ลง ยานพาหนะใด ๆ" ให้นับจำนวนคนก่อน "ต้อง" ให้ครบจึงเดินทางต่อ

6. ถ้าใคร "หลง" ให้ "หยุด" อยู่ที่เดิมและที่สถานที่นั้น "อย่า" เดินไปเรื่อย ๆ จะได้ตามถูกที่
7.ถ้ามีคน "ขึ้น" รถไฟไปก่อน โดยที่ "ประตูรถไฟปิดก่อน" เพราะเพื่อน ๆ ยังไม่ขึ้น อาจจะเนื่องมาจากคนเยอะมาก จะทำอย่างไร นั่นคือให้ตกลงกันก่อน

และเมื่อลงแล้วไม่ต้องเดินไปไหน เราจะตามไป เพราะตู้รถไฟที่เราขึ้นจะไปจอด ณ.จุดเดียวกันของสถานีต่อไป เป็นต้น แล้วก็จะเจอกันเอง

จะได้ติดต่อกันได้เวลาไม่เจอกัน หรือ แจ้งเปิดเบอร์เราให้โทรที่ต่างประเทศได้ก็สะดวกแต่จะแพงเยอะ ซึ่งจะคุ้มถ้ามีคนหาย
9. จะไปไหนจากกลุ่มเรา ให้แจ้งกันไว้ด้วย
10. กรณีเราไปสอบถามกับคนพื้นที่จะไม่ค่อย "ระแวง" แต่..ถ้าเป็นคนนอกจากกลุ่มเรา "กรุณา" พิจารณาความช่วยเหลือด้วย กลัวเขาหลอกเรา
จากที่ "กล่าว" มาข้างต้นนั้น เป็นการป้องกันไว้ครับ เพราะถ้ามีคนหายจริง ๆ แล้วตามกันไม่เจอจะทำให้เรา "ลำบาก" มาก
และถ้าถึงเวลากลับประเทศไทยแล้วจำนวนคนไม่ครบ เราจะเดือดร้อน "ค่าเครื่องบิน" อีก อย่าให้ขาดตกบกพร่อง แล้วคุณจะท่องเที่ยวแบบ "สนุกสนาน" ...ขอรับ ...
เชิญชม "ภาพนิ่ง" กันเลยครับ... ด้านล่างจะเป็น "ภาพเคลื่อนไหว"












































































































































































ต่อไปเชิญชม "ภาพเคลื่อนไหว" ได้ ขอ......รับ
ขอร่วมติดตามผลงานด้วยคนครับ แบบว่าเชียร์พี่ตัวเอง ฮิ ฮิ
ตอบลบโห น่าอิจฉาจัง
ตอบลบ... kO_oK